Customer Reviews

ดิฉันได้อ่าน “กู๊ดบาย มาย ไฮ แคลอรี” ทันทีต่อจาก กลรักบุพเพสวาท พออ่านกลรักฯ จบปุ๊บ ก็มาอ่านเรื่องนี้ปั๊บ ความรู้กหลังอ่านขอบอกเลยว่า ให้ฟีลลิ่งต่างกันมากค่ะ


นิยายเรื่องนี้ ไม่ได้เน้นเรื่องความรักเป็นตัวดำเนินเรื่อง กล่าวคือ เน้นเนื้อหาตามชื่อเรื่องเลยค่ะ นางเอกเป็นคนอ้วน ที่มีความฝันอยากผอม เธอถูกเลี้ยงดูมาแบบผิดๆ เพราะพ่อแม่ และคนรอบข้างมีความเชื่อว่า เด็กอ้วนคือเด็กน่ารัก พ่อแม่ก็สรรหาอาหารอร่อยๆ แต่เต็มไปด้วยไขมัน ตามใจลูกเต็มที่ค่ะ จนนางเอกเป็นเด็กอ้วน


เปิดเรื่องมา นางเอกในวัย 35 ปี ได้มาเล่าถ่ายทอดประสบการณ์ ของตัวเองกับการลดความอ้วนให้สื่อบันเทิงได้รู้ เริ่มตัวแต่ นางเอกเรื่องนี้เธอเป็นลูกคนรวยที่น่ารักคนหนึ่ง และโชคดีที่ได้เจอเพื่อนๆกลุ่มดีๆค่ะ ดิฉันชอบที่คนเขียนบรรยายเวลาเพื่อนนางเอกมารวมตัวกัน มันดูน่ารักดีค่ะ บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมดิฉันถึงชอบ ส่วนอีกเรื่องที่ชอบของนิยายเรื่องนี้คือเคล็ดลับเกี่ยวกับการลดความอ้วนค่ะ เพราะมีจุดเปลี่ยนที่ทำให้นางเอกอยากลดความอ้วน จึงทำให้ เธอลดความอ้วนสารพัดรูปแบบ ทั้งยาลดความอ้วน อดอาหารแบบผิดๆ ออกกำลังกายอย่างหักโหม จึงทำให้ไม่สามารถลดน้ำหนักได้สักทีค่ะ ผู้เขียนเล่มนี้จึงอธิบายสาระประโยชน์ของการลดความอ้วนที่ถูกวิธี มาสอดแทรกเป็นเนื้อหาได้อย่างแนบเนียน


ประเด็นเรื่องความรัก ก็ไม่ใช่นางเอกไม่มีความรักเอาแต่ลดความอ้วนนะคะ มีผู้ชายหลายคนในท้องเรื่อง และมีคนหนึ่งที่นางเอกหลงรัก แต่เหมือนผู้ชายคนนั้นจะไม่ได้คิดอะไรกับนางเอกมากเกินไปกว่าคนที่หวังดีต่อกัน ทำให้นางเอกอกหักจ้า ก็ห่างๆกันไป พอนางเอกเรียนจบ ก็ได้มาดูแลบริหารงานของครอบครัว ก็ได้กลับมาพบกลับผู้ชายคนนี้อีกครั้ง จึงทำให้ทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกันอีก


บอกไม่ถูกเหมือนกันนะคะ ว่าคนอยากลดความอ้วน ต้องใช้กำลังใจแค่ไหนในการลด อย่างตอนแรกนางเอกก็ลดๆเลิกๆ แต่ตอนหลังได้กำลังใจดี จากคนในครอบครัวและเพื่อนสนิท ทำให้นางเอกลดน้ำหนักได้ในที่สุดค่ะ


ตอนแรกดิฉันก็แอบลุ้นเหมือนกันว่าผู้ชายที่นางเอกแอบปิ๊ง จะเป็นพระเอก แต่แอบสปอยเลยละกันค่ะ ว่าแป่ววววว อ่านมาจนจะจบเรื่องแล้วยังไม่มีวี่แว่ว แงๆๆๆ อีกอย่างนางเอกก็แก่แล้วด้วย 35 ขวบแล้ววว แอบสงสารนางเอกเล็กที่ไม่มีแฟน ฮี่ๆๆๆ แต่ก็ถือว่าเป็นนิยายที่โอเคสำหรับดิฉันอีกเรื่องค่ะ เพราะได้ความรู้ดีๆเกี่ยวกับ การลดความอ้วนเยอะเลย ใครอยากลองอ่านนิยายผสมฮาวทูเล็กๆ ลองหามาอ่านกันดูนะคะ

ดิฉันได้อ่าน “กู๊ดบาย มาย ไฮ แคลอรี” ทันทีต่อจาก กลรักบุพเพสวาท พออ่านกลรักฯ จบปุ๊บ ก็มาอ่านเรื่องนี้ปั๊บ ความรู้กหลังอ่านขอบอกเลยว่า ให้ฟีลลิ่งต่างกันมากค่ะ


นิยายเรื่องนี้ ไม่ได้เน้นเรื่องความรักเป็นตัวดำเนินเรื่อง กล่าวคือ เน้นเนื้อหาตามชื่อเรื่องเลยค่ะ นางเอกเป็นคนอ้วน ที่มีความฝันอยากผอม เธอถูกเลี้ยงดูมาแบบผิดๆ เพราะพ่อแม่ และคนรอบข้างมีความเชื่อว่า เด็กอ้วนคือเด็กน่ารัก พ่อแม่ก็สรรหาอาหารอร่อยๆ แต่เต็มไปด้วยไขมัน ตามใจลูกเต็มที่ค่ะ จนนางเอกเป็นเด็กอ้วน


เปิดเรื่องมา นางเอกในวัย 35 ปี ได้มาเล่าถ่ายทอดประสบการณ์ ของตัวเองกับการลดความอ้วนให้สื่อบันเทิงได้รู้ เริ่มตัวแต่ นางเอกเรื่องนี้เธอเป็นลูกคนรวยที่น่ารักคนหนึ่ง และโชคดีที่ได้เจอเพื่อนๆกลุ่มดีๆค่ะ ดิฉันชอบที่คนเขียนบรรยายเวลาเพื่อนนางเอกมารวมตัวกัน มันดูน่ารักดีค่ะ บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมดิฉันถึงชอบ ส่วนอีกเรื่องที่ชอบของนิยายเรื่องนี้คือเคล็ดลับเกี่ยวกับการลดความอ้วนค่ะ เพราะมีจุดเปลี่ยนที่ทำให้นางเอกอยากลดความอ้วน จึงทำให้ เธอลดความอ้วนสารพัดรูปแบบ ทั้งยาลดความอ้วน อดอาหารแบบผิดๆ ออกกำลังกายอย่างหักโหม จึงทำให้ไม่สามารถลดน้ำหนักได้สักทีค่ะ ผู้เขียนเล่มนี้จึงอธิบายสาระประโยชน์ของการลดความอ้วนที่ถูกวิธี มาสอดแทรกเป็นเนื้อหาได้อย่างแนบเนียน


ประเด็นเรื่องความรัก ก็ไม่ใช่นางเอกไม่มีความรักเอาแต่ลดความอ้วนนะคะ มีผู้ชายหลายคนในท้องเรื่อง และมีคนหนึ่งที่นางเอกหลงรัก แต่เหมือนผู้ชายคนนั้นจะไม่ได้คิดอะไรกับนางเอกมากเกินไปกว่าคนที่หวังดีต่อกัน ทำให้นางเอกอกหักจ้า ก็ห่างๆกันไป พอนางเอกเรียนจบ ก็ได้มาดูแลบริหารงานของครอบครัว ก็ได้กลับมาพบกลับผู้ชายคนนี้อีกครั้ง จึงทำให้ทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกันอีก


บอกไม่ถูกเหมือนกันนะคะ ว่าคนอยากลดความอ้วน ต้องใช้กำลังใจแค่ไหนในการลด อย่างตอนแรกนางเอกก็ลดๆเลิกๆ แต่ตอนหลังได้กำลังใจดี จากคนในครอบครัวและเพื่อนสนิท ทำให้นางเอกลดน้ำหนักได้ในที่สุดค่ะ


ตอนแรกดิฉันก็แอบลุ้นเหมือนกันว่าผู้ชายที่นางเอกแอบปิ๊ง จะเป็นพระเอก แต่แอบสปอยเลยละกันค่ะ ว่าแป่ววววว อ่านมาจนจะจบเรื่องแล้วยังไม่มีวี่แว่ว แงๆๆๆ อีกอย่างนางเอกก็แก่แล้วด้วย 35 ขวบแล้ววว แอบสงสารนางเอกเล็กที่ไม่มีแฟน ฮี่ๆๆๆ แต่ก็ถือว่าเป็นนิยายที่โอเคสำหรับดิฉันอีกเรื่องค่ะ เพราะได้ความรู้ดีๆเกี่ยวกับ การลดความอ้วนเยอะเลย ใครอยากลองอ่านนิยายผสมฮาวทูเล็กๆ ลองหามาอ่านกันดูนะคะ

“เจ้าสาวแคริบเบียน” เป็นหนึ่งในนิยายในเซต “A MOMENT IN TIME ณ เวลารัก” ค่ะ ถ้าบอกแบบไม่อวยผู้เขียน ดิฉันต้องสารภาพตามตรงว่าชอบเล่มนี้มากสุดในเซตนี้ บางทีอาจจะเป็นเพราะดิฉันชื่นชอบภาพยนต์ the pirate of the Caribbean เป็นทุนเดิม จึงทำให้อ่านนิยายเรื่องนี้แล้วคิดถึงโจรสลัดในภาพยนต์ก็เป็นได้

พล็อตเรื่องนี้จะว่าย้อนอดีตมาพบรักก็บอกได้ไม่เต็มบอกค่ะ แต่มีเรื่องเกี่ยวข้องกับการเดินทางข้ามผ่านกาลเวลา โดยมีนาฬิกาเป็นสื่อ นางเอกนั้น ความจริงเธอเป็นคนของยุคอดีต แต่มีเหตุทำให้เธอหลงไปอยู่ในยุคปัจจุบัน ผู้เขียนได้ทำการผูกเรื่องให้นางเอกมีตัวตนในยุคปัจจุบันด้วยค่ะ เพราะมีคนหน้าเหมือน เสียงเหมือน เอาง่ายๆ เหมือนนางเอกทุกอย่าง ผู้หญิงคนนั้นหายตัวไป แล้วพอนางเอกที่ย้อนมาจากอดีตมาโผล่ในยุคปัจจุบัน ครอบครัวของผู้หญิงคนนั้นจึงคิดว่านางเอกเป็นลูกสาวที่หายไป ประกอบกับนางเอกความจำเสื่อม ทำให้เธอจำเรื่องราวต่างๆไม่ได้ เธอจึงเข้าใจว่าเธอเป็นคนในยุคปัจจุบันจริงๆ

นางเอกเป็นคนสวยนิเนอะ ก็มีชายหนุ่มมาหมายปอง เป็นคู่หมั้นด้วยนะเออ แต่ลึกๆแล้วนางเอกรู้สึกว่าเธอไม่ได้รักเขาค่ะ ในใจเธอจะมีผู้ชายคนหนึ่งที่เธอคิดว่าเธอรักเขา แต่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร

ฝ่ายพระเอก เป็นโจรสลัด เขาไม่เข้าใจว่าเขาทำอะไรผิด ผู้หญิงที่เขารักอย่างนางเอกจึงได้ทิ้งเขาไปและทำร้ายเขาอย่างเลือดเย็นด้วยการไปเข้าข้างศัตรู แต่เขาก็ยังรักเธอเสมอ ตลอดเวลาพระเอกเฝ้าตามหานางเอก แต่ตามหาเท่าไหร่ก็ไม่พบ เป็นหลายปีเลยค่ะ จนในที่สุดสวรรค์ก็เห็นใจ เมื่อนางเอกที่อยู่ในยุคปัจจุบัน ทำบางอย่างกับนาฬิกา เธอจึงมาโผล่บนเรือของพระเอก และเข้าใจว่าเขาเป็นโจรสลัดเที่ยวฆ่าปล้นไร้มนุษยธรรม คือนางเอกยังจำพระเอกไม่ได้ แต่นั่นไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับพระเอก เพราะเขาตั้งใจว่าต้องทำให้เธอกลับมาจำเขาและรักเขาให้ได้อีกครั้ง วิธีการของพระเอก ต้องไปติดตามอ่านในเล่มเองนะคะ คือมันบับบบว่า น่าร๊อคคอ่า หื่นนิดๆ หวานหน่อยๆ แต่นางเอกก็ไม่ใช่จะง่ายๆนะคะ เธอไปอยู่โลกยุคปัจจุบันมานาน ผู้หญิงปัจจุบันเก่งและร้ายจะตาย ฮี่ๆๆๆ

ความสนุกของเรื่องนี้สำหรับดิฉัน อยู่ที่ปมที่ทำไมอยุ่ๆนางเอกถึงโดนส่งไปยุคปัจจุบันและความจำเสื่อม ลืมอดีตทุกอย่าง และผู้หญิงที่นางเอกไปแทนที่ เธอคนนั้นคือใคร ข้อนี้ดิฉันสงสัยมากค่ะ สงสารคู่หมั้นนางเอกในยุคปัจจุบันเล็กๆเพราะเขาก็รักนางเอก แต่แค่สงสารนะคะ เพราะยังไงก็เชียร์พระเอกอยู่แล้ว ยิ่งเห็นความรักที่พระเอกมีต่อนางเอกยิ่งซาบซึ้งค่ะ อดทนจนนางเอกความจำกลับคืนมา ลองหามาอ่านกันดูนะคะ

“เจ้าสาวแคริบเบียน” เป็นหนึ่งในนิยายในเซต “A MOMENT IN TIME ณ เวลารัก” ค่ะ ถ้าบอกแบบไม่อวยผู้เขียน ดิฉันต้องสารภาพตามตรงว่าชอบเล่มนี้มากสุดในเซตนี้ บางทีอาจจะเป็นเพราะดิฉันชื่นชอบภาพยนต์ the pirate of the Caribbean เป็นทุนเดิม จึงทำให้อ่านนิยายเรื่องนี้แล้วคิดถึงโจรสลัดในภาพยนต์ก็เป็นได้

พล็อตเรื่องนี้จะว่าย้อนอดีตมาพบรักก็บอกได้ไม่เต็มบอกค่ะ แต่มีเรื่องเกี่ยวข้องกับการเดินทางข้ามผ่านกาลเวลา โดยมีนาฬิกาเป็นสื่อ นางเอกนั้น ความจริงเธอเป็นคนของยุคอดีต แต่มีเหตุทำให้เธอหลงไปอยู่ในยุคปัจจุบัน ผู้เขียนได้ทำการผูกเรื่องให้นางเอกมีตัวตนในยุคปัจจุบันด้วยค่ะ เพราะมีคนหน้าเหมือน เสียงเหมือน เอาง่ายๆ เหมือนนางเอกทุกอย่าง ผู้หญิงคนนั้นหายตัวไป แล้วพอนางเอกที่ย้อนมาจากอดีตมาโผล่ในยุคปัจจุบัน ครอบครัวของผู้หญิงคนนั้นจึงคิดว่านางเอกเป็นลูกสาวที่หายไป ประกอบกับนางเอกความจำเสื่อม ทำให้เธอจำเรื่องราวต่างๆไม่ได้ เธอจึงเข้าใจว่าเธอเป็นคนในยุคปัจจุบันจริงๆ

นางเอกเป็นคนสวยนิเนอะ ก็มีชายหนุ่มมาหมายปอง เป็นคู่หมั้นด้วยนะเออ แต่ลึกๆแล้วนางเอกรู้สึกว่าเธอไม่ได้รักเขาค่ะ ในใจเธอจะมีผู้ชายคนหนึ่งที่เธอคิดว่าเธอรักเขา แต่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร

ฝ่ายพระเอก เป็นโจรสลัด เขาไม่เข้าใจว่าเขาทำอะไรผิด ผู้หญิงที่เขารักอย่างนางเอกจึงได้ทิ้งเขาไปและทำร้ายเขาอย่างเลือดเย็นด้วยการไปเข้าข้างศัตรู แต่เขาก็ยังรักเธอเสมอ ตลอดเวลาพระเอกเฝ้าตามหานางเอก แต่ตามหาเท่าไหร่ก็ไม่พบ เป็นหลายปีเลยค่ะ จนในที่สุดสวรรค์ก็เห็นใจ เมื่อนางเอกที่อยู่ในยุคปัจจุบัน ทำบางอย่างกับนาฬิกา เธอจึงมาโผล่บนเรือของพระเอก และเข้าใจว่าเขาเป็นโจรสลัดเที่ยวฆ่าปล้นไร้มนุษยธรรม คือนางเอกยังจำพระเอกไม่ได้ แต่นั่นไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับพระเอก เพราะเขาตั้งใจว่าต้องทำให้เธอกลับมาจำเขาและรักเขาให้ได้อีกครั้ง วิธีการของพระเอก ต้องไปติดตามอ่านในเล่มเองนะคะ คือมันบับบบว่า น่าร๊อคคอ่า หื่นนิดๆ หวานหน่อยๆ แต่นางเอกก็ไม่ใช่จะง่ายๆนะคะ เธอไปอยู่โลกยุคปัจจุบันมานาน ผู้หญิงปัจจุบันเก่งและร้ายจะตาย ฮี่ๆๆๆ

ความสนุกของเรื่องนี้สำหรับดิฉัน อยู่ที่ปมที่ทำไมอยุ่ๆนางเอกถึงโดนส่งไปยุคปัจจุบันและความจำเสื่อม ลืมอดีตทุกอย่าง และผู้หญิงที่นางเอกไปแทนที่ เธอคนนั้นคือใคร ข้อนี้ดิฉันสงสัยมากค่ะ สงสารคู่หมั้นนางเอกในยุคปัจจุบันเล็กๆเพราะเขาก็รักนางเอก แต่แค่สงสารนะคะ เพราะยังไงก็เชียร์พระเอกอยู่แล้ว ยิ่งเห็นความรักที่พระเอกมีต่อนางเอกยิ่งซาบซึ้งค่ะ อดทนจนนางเอกความจำกลับคืนมา ลองหามาอ่านกันดูนะคะ

“จอมใจผู้พิทักษ์” เป็นหนึ่งในนิยายในเซต “A MOMENT IN TIME ณ เวลารัก” ค่ะ เล่มนี้มากันแนวท่านลอร์ดกับเลดี้บ้างนะคะ ตอนแรกดิฉันก็ไม่คิดว่าจะมีนิยายย้อนอดีตไปยุคนี้เหมือนกัน อิอิ

เรื่องของเรื่องเริ่มจาก นางเอก “อันนิตา ฮูฟแมน” เธอเป็นเจ้าหน้าที่ของคฤหาสน์เก่าแก่แห่งหนึ่งค่ะ วันหนึ่งในขณะที่เธอกำลังทำงานอยู่ในงานเลี้ยงแต่งงาน ปรากฎว่าเธอเห็นผู้ชายคนหนึ่งแต่งตัวแปลกๆ ยืนอยู่ริมหน้าต่างห้องบนชั้นสอง เธอก็คิดจะไปเตือนผู้ชายคนนั้นเพราะเกรงว่าจะทำให้แขกในงานตกใจ เพราะการแต่งตัวของเขา แต่ไม่รู้ทำไมค่ะ เมื่อนางเอกเปิดประตูเข้าไปในห้องนั้น ทุกอย่างก็ดับวูบลง หุหุ ย้อนอดีตนั่นเองจ้า

พอนางเอกฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ในสถานที่แปลกๆ และถูกผู้ชายที่แต่งตัวแปลกๆคนนั้นกล่าวหาว่าเธอหล่อนคือคนร้าย

พระเอก “เซอร์โอลิเวอร์ ครอมเวลแห่งฮินชินบรูค” ไม่รู้ว่ายศจะยาวไปไหน แหะๆๆๆ เขารู้สึกเหมือนโดนผีหลอก เมื่อเจอนางเอก เพราะเธอมีใบหน้าเหมือนภรรยาที่เพิ่งสิ้นลมหายใจไป ดังนั้นความรู้สึกแรกที่พระเอกเจอนางเอกคือคิดว่ามีคนเล่นตลกกับเขา ส่งนางเอกมาเพื่อวางแผนจะฆ่าเขาอีกคน แต่นางเอกพยามอธิบายว่าเธอไม่ใช่ภรรยาของเขา และไม่ได้มีเจตนาร้าย พระเอกจึงยื่นข้อเสนอปนข่มขู่ให้นางเอกปลอมตัวมาอยู่ในฐานะของภรรยาที่ตายไปแล้ว สวมรอยนั้นแหละค่ะ เพราะอยากรู้ว่าใครเป็นคนร้าย

จุดดีของนิยายเรื่องนี้ในสายตาของดิฉันคือ เป็นนิยายที่ไม่มีนางอิจฉามาวุ่นวายกับพระเอกให้รำคาญใจค่ะ มีแต่นางเอกโดยผู้ชายรุมล้อม เพราะภรรยาของพระเอกไม่ธรรมดา อิอิ ร้ายใช่เล่น เธอไม่ได้รักพระเอกจริงๆด้วยซ้ำ

พระเอกเรื่องนี้ค่อนข้างมีอีโก้นิดนึง เพราะเขาเป็นถึงผู้พิทักษ์นิคะ เป็นใหญ่สุดในบ้าน สั่งอะไรใครก็ต้องทำตาม แต่นางเอกไมได้หัวอ่อนเหมือนสาวๆในยุคอดีตนะคะ พระเอกจึงเริ่มวุ่นวายงุ่นง่านในจใจแล้วค่ะ เอาจริงๆเขาก็ชอบนางเอกนั่นแหละ เพราะนอกจากเธอจะมีใบหน้าสวยเหมือนภรรยา นิสัยนางเอกทำให้คนอยู่ใกล้หลงรักได้ไม่ยาก ส่วนนางเอกก็หลงรักพระเอกเหมือนกัน


คนร้ายของเรื่อง นางเอกก็ช่วยพระเอกสืบค่ะ จนรู้ว่าใครเป็นคนร้าย แต่รู้สึกว่าคนร้ายเรื่องนี้ไม่ค่อยมีอะไรซับซ้อนสักนิด คือร้ายแบบตรงๆเลยค่ะ พอเฉลยเรื่องคนร้ายปุ๊บก็ปิดคดีทั้งหมดได้ปั๊บ ความรักของพระเอกนางเอกก็ลงตัวนะคะ แต่ต้องไปติดตามในเรื่องว่าพระเอกมีวิธีอย่างไรนางเอกถึงยอมอยู่ในอดีตกับเขา ส่วนตอนจบของเรื่องที่ผู้เขียนปิดเรื่อง ดิฉันไม่ค่อยฟินค่ะ

“จอมใจผู้พิทักษ์” เป็นหนึ่งในนิยายในเซต “A MOMENT IN TIME ณ เวลารัก” ค่ะ เล่มนี้มากันแนวท่านลอร์ดกับเลดี้บ้างนะคะ ตอนแรกดิฉันก็ไม่คิดว่าจะมีนิยายย้อนอดีตไปยุคนี้เหมือนกัน อิอิ

เรื่องของเรื่องเริ่มจาก นางเอก “อันนิตา ฮูฟแมน” เธอเป็นเจ้าหน้าที่ของคฤหาสน์เก่าแก่แห่งหนึ่งค่ะ วันหนึ่งในขณะที่เธอกำลังทำงานอยู่ในงานเลี้ยงแต่งงาน ปรากฎว่าเธอเห็นผู้ชายคนหนึ่งแต่งตัวแปลกๆ ยืนอยู่ริมหน้าต่างห้องบนชั้นสอง เธอก็คิดจะไปเตือนผู้ชายคนนั้นเพราะเกรงว่าจะทำให้แขกในงานตกใจ เพราะการแต่งตัวของเขา แต่ไม่รู้ทำไมค่ะ เมื่อนางเอกเปิดประตูเข้าไปในห้องนั้น ทุกอย่างก็ดับวูบลง หุหุ ย้อนอดีตนั่นเองจ้า

พอนางเอกฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ในสถานที่แปลกๆ และถูกผู้ชายที่แต่งตัวแปลกๆคนนั้นกล่าวหาว่าเธอหล่อนคือคนร้าย

พระเอก “เซอร์โอลิเวอร์ ครอมเวลแห่งฮินชินบรูค” ไม่รู้ว่ายศจะยาวไปไหน แหะๆๆๆ เขารู้สึกเหมือนโดนผีหลอก เมื่อเจอนางเอก เพราะเธอมีใบหน้าเหมือนภรรยาที่เพิ่งสิ้นลมหายใจไป ดังนั้นความรู้สึกแรกที่พระเอกเจอนางเอกคือคิดว่ามีคนเล่นตลกกับเขา ส่งนางเอกมาเพื่อวางแผนจะฆ่าเขาอีกคน แต่นางเอกพยามอธิบายว่าเธอไม่ใช่ภรรยาของเขา และไม่ได้มีเจตนาร้าย พระเอกจึงยื่นข้อเสนอปนข่มขู่ให้นางเอกปลอมตัวมาอยู่ในฐานะของภรรยาที่ตายไปแล้ว สวมรอยนั้นแหละค่ะ เพราะอยากรู้ว่าใครเป็นคนร้าย

จุดดีของนิยายเรื่องนี้ในสายตาของดิฉันคือ เป็นนิยายที่ไม่มีนางอิจฉามาวุ่นวายกับพระเอกให้รำคาญใจค่ะ มีแต่นางเอกโดยผู้ชายรุมล้อม เพราะภรรยาของพระเอกไม่ธรรมดา อิอิ ร้ายใช่เล่น เธอไม่ได้รักพระเอกจริงๆด้วยซ้ำ

พระเอกเรื่องนี้ค่อนข้างมีอีโก้นิดนึง เพราะเขาเป็นถึงผู้พิทักษ์นิคะ เป็นใหญ่สุดในบ้าน สั่งอะไรใครก็ต้องทำตาม แต่นางเอกไมได้หัวอ่อนเหมือนสาวๆในยุคอดีตนะคะ พระเอกจึงเริ่มวุ่นวายงุ่นง่านในจใจแล้วค่ะ เอาจริงๆเขาก็ชอบนางเอกนั่นแหละ เพราะนอกจากเธอจะมีใบหน้าสวยเหมือนภรรยา นิสัยนางเอกทำให้คนอยู่ใกล้หลงรักได้ไม่ยาก ส่วนนางเอกก็หลงรักพระเอกเหมือนกัน


คนร้ายของเรื่อง นางเอกก็ช่วยพระเอกสืบค่ะ จนรู้ว่าใครเป็นคนร้าย แต่รู้สึกว่าคนร้ายเรื่องนี้ไม่ค่อยมีอะไรซับซ้อนสักนิด คือร้ายแบบตรงๆเลยค่ะ พอเฉลยเรื่องคนร้ายปุ๊บก็ปิดคดีทั้งหมดได้ปั๊บ ความรักของพระเอกนางเอกก็ลงตัวนะคะ แต่ต้องไปติดตามในเรื่องว่าพระเอกมีวิธีอย่างไรนางเอกถึงยอมอยู่ในอดีตกับเขา ส่วนตอนจบของเรื่องที่ผู้เขียนปิดเรื่อง ดิฉันไม่ค่อยฟินค่ะ

“จุมพิตอัศวิน” เป็นหนึ่งในนิยายในเซต “A MOMENT IN TIME ณ เวลารัก” ค่ะ โดยตัวละครหลักของเรื่องนี้จะอยู่ใน 2 ช่วงเวลาหลักคือ ในยุคปัจจุบันของเรื่อง(ปี 2042) กับในยุคสมัยของกษัตริย์อาร์เธอร์ จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้มาจากการที่ศาสตราจารย์ของนางเอกซึ่งเป็นผู้ศึกษาเรื่องการเดินทางข้ามเวลา อยู่ๆ เธอก็ไปอยู่โลกยุคอดีตค่ะ นางเอกซึ่งเป็นลูกศิษย์เอกและรู้เรื่องงานวิจัยจึงเริ่มกังวลของการหายตัวไปของอาจารย์ เพราะหลักฐานที่ระบุตัวตนของอาจารย์เริ่มเลือนหายไป นางเอกจึงคิดว่าต้องมีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้นในอดีตแน่ๆ หรือไม่ก็เป็นลางร้ายบอกว่าอาจารย์เธอกำลังจะตาย


เริ่มต้นผู้เขียนปูเรื่องได้หนือจินตนาการมาก เพราะนางเอกเรื่องนี้เธอเป็นนักฟิสิกซ์ค่ะ พวกอุปกรณ์ล้ำๆก้เลยโผล่มาให้ตื่นตาเล็กๆ พอนางเอกย้อนเวลาไปในยุคอดีตเพื่อตามหาอาจารย์ ก็ได้พบกับพระเอกซึ่งเป็นหนึ่งในอัศวินโต๊ะกลมค่ะ หุหุเท่เนอะ ตอนแรกพระเอกแอบหลงรักพระธิดาของกษัตริย์อาร์เธอร์ แต่เมื่อเห็นนางเอกเขาก็เริ่มหวั่นไหวค่ะ ดิฉันไม่รู้ว่าเป็นเพราะนางเอกสวยหรืออย่างไร ตอนแรกพระเอกก็ชอบว่านางเอกว่าอ่อยผู้ชาย ความจริงก็คือหึงนั่นแหละค่ะ นางเอกเองก็ไม่ได้บอกว่าการที่เธอต้องไปสนิทสนมตีสนิทกับบรรดาอัศวินเพราะต้องตามหาอาจารย์


กว่าจะปรับความเข้าใจกันได้ ดิฉันก็ลุ้นแทบแย่ ช่วงต่อมาของเรื่องเริ่มสนุกแล้วค่ะ เพราะสาเหตุที่อาจารย์ของนางเอกได้เดินทางมายุคอดีตเริ่มเปิดเผย ซึ่งความจริงนั้น เกี่ยวข้องกับคนในยุคปัจจุบันด้วย เพราะคนร้ายกลุ่มนี้ ต้องการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ เรื่องราวที่เกิดขึ้นไปแล้วในอดีต โดยการใช้งานวิจัยของอาจารย์นางเอกในการกลับมาแก้ไขเรื่องที่เกิดขึ้นในยุคสมัยกษัตริย์อาร์เธอร์ เขาจึงวางแผนและดึงอัศวินบางคนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย พระธิดาของกษัตริย์อาร์เธอร์ ก็มีส่วนด้วยนะคะ หุหุ อยากรู้กันแล้วใช่ไหมเอ่ย


แต่คนร้ายทำไม่สำเร็จค่ะ เพราะเพื่อนชอยของนางเอก (ที่หลงรักนางเอกอยู่)ตามมาช่วย และอยากให้นางเอกกลับไปในโลกยุคปัจจันกับเขาและอาจารย์ของเธอ นางเอกเองก็รู้อยู่แล้วว่าเธอไม่สามารถใช้ชีวิตร่วมกับพระเอกได้ เพราะประวัติศาสตร์อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ พระเอกแม้จะรู้ว่านางเอกไม่ใช่คนในยุคของเขา แต่เขารักเธอไปแล้ว กดดันหัวใจพอสมควรค่ะ เพราะคนรักกันแต่อยู่ด้วยกันไม่ได้ อ่านแล้วหงุดหงิดพระเอกพอสมควรเพราะเขาดูเหมือนไม่ได้รักนางเอกมากเท่าไหร่ ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ก็มีทำให้นางเอกเสียใจ โดนคนร้ายหลอกไปจนเกือบตายด้วยนะ น่าตบมาก ก็โอเคค่ะ ให้อภัยละกัน เพราะเขาอาจจะยังไม่รู้ตัวว่ารักนางเอก แต่พอมาครั้งนี้ พอนางเอกจะกลับโลกตัวเอง เขาคงเสียใจเกินจนลืมรั้งเธอไว้!!! อิอิ ตอนจบนางเอกจะตัดสินใจอย่างไรต้องติดตามต่อในเล่มนะคะ

“จุมพิตอัศวิน” เป็นหนึ่งในนิยายในเซต “A MOMENT IN TIME ณ เวลารัก” ค่ะ โดยตัวละครหลักของเรื่องนี้จะอยู่ใน 2 ช่วงเวลาหลักคือ ในยุคปัจจุบันของเรื่อง(ปี 2042) กับในยุคสมัยของกษัตริย์อาร์เธอร์ จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้มาจากการที่ศาสตราจารย์ของนางเอกซึ่งเป็นผู้ศึกษาเรื่องการเดินทางข้ามเวลา อยู่ๆ เธอก็ไปอยู่โลกยุคอดีตค่ะ นางเอกซึ่งเป็นลูกศิษย์เอกและรู้เรื่องงานวิจัยจึงเริ่มกังวลของการหายตัวไปของอาจารย์ เพราะหลักฐานที่ระบุตัวตนของอาจารย์เริ่มเลือนหายไป นางเอกจึงคิดว่าต้องมีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้นในอดีตแน่ๆ หรือไม่ก็เป็นลางร้ายบอกว่าอาจารย์เธอกำลังจะตาย


เริ่มต้นผู้เขียนปูเรื่องได้หนือจินตนาการมาก เพราะนางเอกเรื่องนี้เธอเป็นนักฟิสิกซ์ค่ะ พวกอุปกรณ์ล้ำๆก้เลยโผล่มาให้ตื่นตาเล็กๆ พอนางเอกย้อนเวลาไปในยุคอดีตเพื่อตามหาอาจารย์ ก็ได้พบกับพระเอกซึ่งเป็นหนึ่งในอัศวินโต๊ะกลมค่ะ หุหุเท่เนอะ ตอนแรกพระเอกแอบหลงรักพระธิดาของกษัตริย์อาร์เธอร์ แต่เมื่อเห็นนางเอกเขาก็เริ่มหวั่นไหวค่ะ ดิฉันไม่รู้ว่าเป็นเพราะนางเอกสวยหรืออย่างไร ตอนแรกพระเอกก็ชอบว่านางเอกว่าอ่อยผู้ชาย ความจริงก็คือหึงนั่นแหละค่ะ นางเอกเองก็ไม่ได้บอกว่าการที่เธอต้องไปสนิทสนมตีสนิทกับบรรดาอัศวินเพราะต้องตามหาอาจารย์


กว่าจะปรับความเข้าใจกันได้ ดิฉันก็ลุ้นแทบแย่ ช่วงต่อมาของเรื่องเริ่มสนุกแล้วค่ะ เพราะสาเหตุที่อาจารย์ของนางเอกได้เดินทางมายุคอดีตเริ่มเปิดเผย ซึ่งความจริงนั้น เกี่ยวข้องกับคนในยุคปัจจุบันด้วย เพราะคนร้ายกลุ่มนี้ ต้องการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ เรื่องราวที่เกิดขึ้นไปแล้วในอดีต โดยการใช้งานวิจัยของอาจารย์นางเอกในการกลับมาแก้ไขเรื่องที่เกิดขึ้นในยุคสมัยกษัตริย์อาร์เธอร์ เขาจึงวางแผนและดึงอัศวินบางคนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย พระธิดาของกษัตริย์อาร์เธอร์ ก็มีส่วนด้วยนะคะ หุหุ อยากรู้กันแล้วใช่ไหมเอ่ย


แต่คนร้ายทำไม่สำเร็จค่ะ เพราะเพื่อนชอยของนางเอก (ที่หลงรักนางเอกอยู่)ตามมาช่วย และอยากให้นางเอกกลับไปในโลกยุคปัจจันกับเขาและอาจารย์ของเธอ นางเอกเองก็รู้อยู่แล้วว่าเธอไม่สามารถใช้ชีวิตร่วมกับพระเอกได้ เพราะประวัติศาสตร์อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ พระเอกแม้จะรู้ว่านางเอกไม่ใช่คนในยุคของเขา แต่เขารักเธอไปแล้ว กดดันหัวใจพอสมควรค่ะ เพราะคนรักกันแต่อยู่ด้วยกันไม่ได้ อ่านแล้วหงุดหงิดพระเอกพอสมควรเพราะเขาดูเหมือนไม่ได้รักนางเอกมากเท่าไหร่ ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ก็มีทำให้นางเอกเสียใจ โดนคนร้ายหลอกไปจนเกือบตายด้วยนะ น่าตบมาก ก็โอเคค่ะ ให้อภัยละกัน เพราะเขาอาจจะยังไม่รู้ตัวว่ารักนางเอก แต่พอมาครั้งนี้ พอนางเอกจะกลับโลกตัวเอง เขาคงเสียใจเกินจนลืมรั้งเธอไว้!!! อิอิ ตอนจบนางเอกจะตัดสินใจอย่างไรต้องติดตามต่อในเล่มนะคะ

“บ่วงพิศวาสจอมมาร” เป็นนิยายเล่มแรกในชุดเทพบุตรมารของคุณมณีจันท์ค่ะ พระเอกและนางเอกของเรื่องนี้มีสองคู่ ฝ่ายพระเอก พวกเขาทั้งคู่ถือเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกันค่ะ

มาเริ่มกันที่คู่แรกกันเลยดีกว่า “ลีโอนาร์ด เด เซร์บันเตส” เขาได้รับฉายาเป็นจ้าพ่ออินซอร์ซและเจ้าของสายการบินของทวีปอเมริกา นางเอกของเขาก็คือ… “เอวิกา คอร์นเวล” ลูกสาวนักธุรกิจชื่อดังค่ะ แต่นางเอกเธอไมได้ช่วยกิจการที่บ้าน เธอผันตัวไปเป็นพวก NGO ความจริงนางเอกได้ยินชื่อพระเอกมานานแล้วเพราะเขาบริจาคช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยยอดเงินจำนวนมหาศาล คู่นี้นางเอกจึงปิ๊งปั๊งพระเอกก่อนค่ะ โชคช่วยเพราะแม่พระเอกและแม่นางเอก รู้จักกันและอยากให้ทั้งสองครอบครัวเป็นทองแผ่นเดียวกัน นางเอกก็สรรหาวิธีมาอ่อยให้พระเอกตกหลุมรัก แต่คนระดับพระเอก เขาไม่ใช่ไก่อ่อนให้นางเอกมาจูงได้ง่ายๆ เขารู้ทันค่ะ แต่เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่านางเอกจะทำอย่างไรต่อ เอาจริงๆ คุณพระเอกก็ชอบนางเอกแล้วนั่นแหละค่ะ แต่ไม่กล้าทำอะไรมากเพราะนางเอกเป็นลูกสาวเพื่อนแม่

ส่วนอีกคู่ “ดักลาส วิสต์เลอร์” พระเอกคนนี้ก็ไม่ธรรมดาเพราะเขาเป็นเจ้าพ่ออินซอร์ซในทวีปยุโรป นางเอกของเขาก็คือ “บราลี เซร์ราโน” เธอปลอมตัวเขามาเป็นเลขาฯของเขา เพราะหวังโจรกรรมข้อมูลทางธุรกิจ


ความสนุกของนิยายเรื่องนี้สำหรับดิฉันอยู่ที่คู่ของ “ดักลาส”กับ”บราลี” ค่ะ อาจจะเป็นเพราะดิฉันชอบนิยายแนวตื่นเต้นเล็กๆ ดิฉันจึงรู้สึกว่าคู่นี้มีอะไรให้ติดตามากกว่าคู่แรก ที่นางเอกหาทางอ่อยพระเอกอยู่ ชีวิตของ “บราลี” เธอไม่อยากเป็นขโมยหรอกค่ะ แต่เธอต้องทำเพราะทดแทนบุญคุณ และถ้าหากไม่ทำ ผู้มีพระคุณของเธอซึ่งเป็นคนร้ายของเรื่อง ขู่จะฆ่าแม่ของเธอ นางเอกจึงต้องทำ แม้ว่าตอนหลังเธอจะรู้สึกว่าการหักหลัง “ดักลาส”เป็นเรื่องผิด เพราะนางเอกเริ่มหลงรักเขาไปแล้ว ก็แหม พระเอกไม่ใช่คนเลวนิค่ะ แถมเขาก็ชอบนางเอกก่อนด้วย ตามตื้อตามจีบ ออกแนวเอาแต่ใจตัวเองนิดๆ อารมณ์แบบ จะเอาๆๆๆๆๆ ถึงนางเอกจะพยายามปฏิเสธและหักห้ามใจก็สู้แรงตื้อกับสเน่ห์ของเขาไม่ไหว

พอ”ดักลาส”รู้ความจริงว่าคนที่เขารักเข้ามาใกล้ตัวเขาเพราะหวังข้อมูลทางธุรกิจ เขาก็โกรธนะคะ แต่ทำไงเนอะ ก็คนมันรักไปแล้ว เขาจึงมีวิธีการลงโทษนางเอกตามแบบฉบับของเขาเอง เหมือนจะโหดค่ะ 5555555555555

กลับมาที่ “ลีโอนาร์ด”กันบ้าง เดี๋ยวเขาจะน้อยใจ มีเรื่องเกิดขึ้นกับ “เอวิกา” จนทำให้ทั้งคู่มีสัมพันธ์ลึกซึ้ง พระเอกจึงเริ่มปฏิเสธใจตัวเองไม่ได้อีกต่อไปว่าเขาเริ่มหลงรักเธอไปแล้ว แต่กลับกัน เพราะนางเอกเริ่มมองเห็นว่าเขาเป็นตัวร้ายสำหรับเธอ สถานการณ์พลิกค่ะ เพราะพระเอกต้องงัดเล่ห์กลมาเพื่อทำให้นางเอกยอมอยู่กับตัวเอง ไหนจะเรื่องธุรกิจที่ “ดักลาส” แจ้งให้รู้ว่ามีผู้ไม่หวังดี และมีสิทธิ์ที่ทั้งเขาและนางเอกของเขาจะถูกปองร้าย ดิฉันชอบช่วงีน้ของเรื่องมากสุดค่ะ เพราะคนร้ายเริ่มจนแต้มและถูกพระเอกตลบหลังเอาคืนบ้างแล้ว จนในที่สุดก็สามารถจัดการกับคนร้ายได้ เรื่องความรัก กว่าจะเข้าใจกันก็ท้ายเรื่อง เพราะคุณพระเอกยอมอธิบายความรู้สึกให้นางเอกเข้าใจ นางเอกในเมื่อรักเขาอยู่แล้วจะเล่นตัวไปทำไม จบแบบแฮปปี้หวานแหววค่ะ

“บ่วงพิศวาสจอมมาร” เป็นนิยายเล่มแรกในชุดเทพบุตรมารของคุณมณีจันท์ค่ะ พระเอกและนางเอกของเรื่องนี้มีสองคู่ ฝ่ายพระเอก พวกเขาทั้งคู่ถือเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกันค่ะ

มาเริ่มกันที่คู่แรกกันเลยดีกว่า “ลีโอนาร์ด เด เซร์บันเตส” เขาได้รับฉายาเป็นจ้าพ่ออินซอร์ซและเจ้าของสายการบินของทวีปอเมริกา นางเอกของเขาก็คือ… “เอวิกา คอร์นเวล” ลูกสาวนักธุรกิจชื่อดังค่ะ แต่นางเอกเธอไมได้ช่วยกิจการที่บ้าน เธอผันตัวไปเป็นพวก NGO ความจริงนางเอกได้ยินชื่อพระเอกมานานแล้วเพราะเขาบริจาคช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยยอดเงินจำนวนมหาศาล คู่นี้นางเอกจึงปิ๊งปั๊งพระเอกก่อนค่ะ โชคช่วยเพราะแม่พระเอกและแม่นางเอก รู้จักกันและอยากให้ทั้งสองครอบครัวเป็นทองแผ่นเดียวกัน นางเอกก็สรรหาวิธีมาอ่อยให้พระเอกตกหลุมรัก แต่คนระดับพระเอก เขาไม่ใช่ไก่อ่อนให้นางเอกมาจูงได้ง่ายๆ เขารู้ทันค่ะ แต่เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่านางเอกจะทำอย่างไรต่อ เอาจริงๆ คุณพระเอกก็ชอบนางเอกแล้วนั่นแหละค่ะ แต่ไม่กล้าทำอะไรมากเพราะนางเอกเป็นลูกสาวเพื่อนแม่

ส่วนอีกคู่ “ดักลาส วิสต์เลอร์” พระเอกคนนี้ก็ไม่ธรรมดาเพราะเขาเป็นเจ้าพ่ออินซอร์ซในทวีปยุโรป นางเอกของเขาก็คือ “บราลี เซร์ราโน” เธอปลอมตัวเขามาเป็นเลขาฯของเขา เพราะหวังโจรกรรมข้อมูลทางธุรกิจ


ความสนุกของนิยายเรื่องนี้สำหรับดิฉันอยู่ที่คู่ของ “ดักลาส”กับ”บราลี” ค่ะ อาจจะเป็นเพราะดิฉันชอบนิยายแนวตื่นเต้นเล็กๆ ดิฉันจึงรู้สึกว่าคู่นี้มีอะไรให้ติดตามากกว่าคู่แรก ที่นางเอกหาทางอ่อยพระเอกอยู่ ชีวิตของ “บราลี” เธอไม่อยากเป็นขโมยหรอกค่ะ แต่เธอต้องทำเพราะทดแทนบุญคุณ และถ้าหากไม่ทำ ผู้มีพระคุณของเธอซึ่งเป็นคนร้ายของเรื่อง ขู่จะฆ่าแม่ของเธอ นางเอกจึงต้องทำ แม้ว่าตอนหลังเธอจะรู้สึกว่าการหักหลัง “ดักลาส”เป็นเรื่องผิด เพราะนางเอกเริ่มหลงรักเขาไปแล้ว ก็แหม พระเอกไม่ใช่คนเลวนิค่ะ แถมเขาก็ชอบนางเอกก่อนด้วย ตามตื้อตามจีบ ออกแนวเอาแต่ใจตัวเองนิดๆ อารมณ์แบบ จะเอาๆๆๆๆๆ ถึงนางเอกจะพยายามปฏิเสธและหักห้ามใจก็สู้แรงตื้อกับสเน่ห์ของเขาไม่ไหว

พอ”ดักลาส”รู้ความจริงว่าคนที่เขารักเข้ามาใกล้ตัวเขาเพราะหวังข้อมูลทางธุรกิจ เขาก็โกรธนะคะ แต่ทำไงเนอะ ก็คนมันรักไปแล้ว เขาจึงมีวิธีการลงโทษนางเอกตามแบบฉบับของเขาเอง เหมือนจะโหดค่ะ 5555555555555

กลับมาที่ “ลีโอนาร์ด”กันบ้าง เดี๋ยวเขาจะน้อยใจ มีเรื่องเกิดขึ้นกับ “เอวิกา” จนทำให้ทั้งคู่มีสัมพันธ์ลึกซึ้ง พระเอกจึงเริ่มปฏิเสธใจตัวเองไม่ได้อีกต่อไปว่าเขาเริ่มหลงรักเธอไปแล้ว แต่กลับกัน เพราะนางเอกเริ่มมองเห็นว่าเขาเป็นตัวร้ายสำหรับเธอ สถานการณ์พลิกค่ะ เพราะพระเอกต้องงัดเล่ห์กลมาเพื่อทำให้นางเอกยอมอยู่กับตัวเอง ไหนจะเรื่องธุรกิจที่ “ดักลาส” แจ้งให้รู้ว่ามีผู้ไม่หวังดี และมีสิทธิ์ที่ทั้งเขาและนางเอกของเขาจะถูกปองร้าย ดิฉันชอบช่วงีน้ของเรื่องมากสุดค่ะ เพราะคนร้ายเริ่มจนแต้มและถูกพระเอกตลบหลังเอาคืนบ้างแล้ว จนในที่สุดก็สามารถจัดการกับคนร้ายได้ เรื่องความรัก กว่าจะเข้าใจกันก็ท้ายเรื่อง เพราะคุณพระเอกยอมอธิบายความรู้สึกให้นางเอกเข้าใจ นางเอกในเมื่อรักเขาอยู่แล้วจะเล่นตัวไปทำไม จบแบบแฮปปี้หวานแหววค่ะ

“เล่ห์พิศวาสจอมมาร” นิยายเล่มสุดท้ายในชุด เทพบุตรมาร ของคุณ “มณีจันท์”ค่ะ หากใครยังจำ “หนูสอง อุมารินทร์” เพื่อนสนิทของ “ธีรษา”และคู่แฝดของ”อิงลดา”จาก…. กันได้ เล่มนี้ถึงคราวของเธอแล้วค่ะ ที่จะเจอพระเอกขวัญใจ ส่วนอีกคู่ก็ยกตำแหน่งพระเอกให้กับ “แอสตัน” พี่ชาย(คนละสายเลือด)ของหนูสอง


ความรู้สึกหลังอ่าน ดิฉันขอสารภาพตามตรงเลยค่ะ ว่าชอบเล่มนี้น้อยที่สุดในบรรดาสามเล่ม เล่มนี้ค่อนข้างฉีกออกจากสองเล่มแรกโดยสิ้นเชิงเพราะไม่ค่อยมีประเด็นปมต่างๆให้ติดตามค่อยลุ้นมากเท่าสองเล่มก่อนหน้า จุดขายของนิยายเล่มนี้จึงตกมาอยู่ที่ความรักของพระเอกนาเงอกทั้งสองคู่ค่ะ


ส่วนที่ดิฉันชอบในนิยายเล่มนี้ และคิดว่าไม่ค่อยมีให้เห็นในนิยายของคุณมณีจันท์เท่าไหร่คือ พระเอกที่รู้ตัวและยอมรับแบบไม่อายว่ารักปักใจในตัวนางเอกมานานแล้ว ปกติพระเอกสไตล์คุณมณีจันท์ หากใครเคยอ่านคงรู้ๆกันค่ะ ว่าบรรดาคุณชายทั้งหลายมักจะไม่ค่อยรู้ตัวหรอกว่าสิ่งที่รู้สึกกับนางเอกคือความรัก

อย่างคู่ของ พระเอก “แอสตัน” กับนางเอก “จิรากร” พระเอกรักนางเอกตั้งแต่แรกพบ นางเอกก็ชอบเขานะคะ แต่เพราะมีเรื่องราวบางอย่างเกิดขึ้นทำให้เส้นทางของทั้งคู่ขนานกันมานานถึงแปดปี แต่พระเอกก็ยังคงรักนางเอกอยู่ ดิฉันค่อนข้างซาบซึ้งกับความรักของคู่นี้ค่ะ ไม่รู้ว่าในชีวิตจริงจะมีไหม ผู้ชายที่ยังรักเรานานขนาดนี้เนอะ แม้พอกลับมาพบกันอีกครั้ง นางเอกจะเล่นตัวแอ๊บว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับพระเอก แต่เธอก็ห้ามใจตัวเองไม่ให้รักเขาไม่ได้ จนในที่สุดความรักที่รอคอยจนถึงเวลาที่เหมาะสม ทำให้รักของคู่นี้กินใจดิฉันมากกว่าอีกคู่อย่างปฏิเสธไม่ได้


ไม่ใชว่าคู่ของ “หนูสอง”จะน้อยหน้านะคะ “จาเร็ด” พระเอกของนางเอกคนนี้ ก็น่ารักไม่แพ้ “แอสตัน”พี่ชายของเธอค่ะ แถม “จาเร็ด” ยังเป็นพี่ชายของ “จิรากร” คนรักของ “แอสตัน”ด้วย วนกันในวงจรดีแท้ อิอิ คู่นี้เจอกันครั้งแรก เพราะรถนางเอกเสีย และก็ได้พระเอกมาเป็นคนช่วยเหลือ ช่วยกันไปช่วยกันมาก็ตกหลุมรักกันซะเลย แต่เส้นทางรักไม่ได้ราบรื่น เพราะในอดีต “แอสตัน” กับ “จาเร็ด”เคยมีเรื่องกันมาก่อน จนเกลียดขี้หน้าอีกฝ่ายยิ่งกว่าไส้เดือนกิ้งกือ มีฉากปะทะคารมระหว่าง “จาเร็ด” และ”แอสตัน” ที่สร้างความปวดหัวให้กับนางเอกทั้งสองคนเป็นอย่างมาก คู่นี้ชอบทะเลาะกันเหมือนเด็กค่ะ อ่านแล้วขำดี

ปมของเรื่องนี้นอกเหนือจากความรัก ยังมีเรื่องการการฆาตกรรม มาเกี่ยวข้องด้วย เหตุการณ์เริ่มต้นจากมีผู้ชายคนหนึ่งตายค่ะ และผู้ชายคนนี้ก็มีส่วนในการโกงบริษัทของพระเอกค่ะ ทำให้พระเอกทั้งคู่ต้องตามสืบ เพราะเรื่องเข้ามาพัวพันกันจนไม่น่าเชื่อ ปมในอดีตก็ถูกคลี่คลายพร้อมๆกับคนโกงที่โดนจับได้ ตัวร้ายเรื่องนี้ สำหรับดิฉัน อันดับหนึ่งมาแรงแซงทางโค้ง ยกให้กับ “เฮเลน” อดีตแฟนสาวของทั้ง “จาเร็ด”และ “แอสตัน” นางร้ายจริงไรจริง ลองไปติดตามดูค่ะ ว่าสุดท้ายแล้วความรักของทั้งสี่คนจะลงเอยอย่างไร

“เล่ห์พิศวาสจอมมาร” นิยายเล่มสุดท้ายในชุด เทพบุตรมาร ของคุณ “มณีจันท์”ค่ะ หากใครยังจำ “หนูสอง อุมารินทร์” เพื่อนสนิทของ “ธีรษา”และคู่แฝดของ”อิงลดา”จาก…. กันได้ เล่มนี้ถึงคราวของเธอแล้วค่ะ ที่จะเจอพระเอกขวัญใจ ส่วนอีกคู่ก็ยกตำแหน่งพระเอกให้กับ “แอสตัน” พี่ชาย(คนละสายเลือด)ของหนูสอง


ความรู้สึกหลังอ่าน ดิฉันขอสารภาพตามตรงเลยค่ะ ว่าชอบเล่มนี้น้อยที่สุดในบรรดาสามเล่ม เล่มนี้ค่อนข้างฉีกออกจากสองเล่มแรกโดยสิ้นเชิงเพราะไม่ค่อยมีประเด็นปมต่างๆให้ติดตามค่อยลุ้นมากเท่าสองเล่มก่อนหน้า จุดขายของนิยายเล่มนี้จึงตกมาอยู่ที่ความรักของพระเอกนาเงอกทั้งสองคู่ค่ะ


ส่วนที่ดิฉันชอบในนิยายเล่มนี้ และคิดว่าไม่ค่อยมีให้เห็นในนิยายของคุณมณีจันท์เท่าไหร่คือ พระเอกที่รู้ตัวและยอมรับแบบไม่อายว่ารักปักใจในตัวนางเอกมานานแล้ว ปกติพระเอกสไตล์คุณมณีจันท์ หากใครเคยอ่านคงรู้ๆกันค่ะ ว่าบรรดาคุณชายทั้งหลายมักจะไม่ค่อยรู้ตัวหรอกว่าสิ่งที่รู้สึกกับนางเอกคือความรัก

อย่างคู่ของ พระเอก “แอสตัน” กับนางเอก “จิรากร” พระเอกรักนางเอกตั้งแต่แรกพบ นางเอกก็ชอบเขานะคะ แต่เพราะมีเรื่องราวบางอย่างเกิดขึ้นทำให้เส้นทางของทั้งคู่ขนานกันมานานถึงแปดปี แต่พระเอกก็ยังคงรักนางเอกอยู่ ดิฉันค่อนข้างซาบซึ้งกับความรักของคู่นี้ค่ะ ไม่รู้ว่าในชีวิตจริงจะมีไหม ผู้ชายที่ยังรักเรานานขนาดนี้เนอะ แม้พอกลับมาพบกันอีกครั้ง นางเอกจะเล่นตัวแอ๊บว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับพระเอก แต่เธอก็ห้ามใจตัวเองไม่ให้รักเขาไม่ได้ จนในที่สุดความรักที่รอคอยจนถึงเวลาที่เหมาะสม ทำให้รักของคู่นี้กินใจดิฉันมากกว่าอีกคู่อย่างปฏิเสธไม่ได้


ไม่ใชว่าคู่ของ “หนูสอง”จะน้อยหน้านะคะ “จาเร็ด” พระเอกของนางเอกคนนี้ ก็น่ารักไม่แพ้ “แอสตัน”พี่ชายของเธอค่ะ แถม “จาเร็ด” ยังเป็นพี่ชายของ “จิรากร” คนรักของ “แอสตัน”ด้วย วนกันในวงจรดีแท้ อิอิ คู่นี้เจอกันครั้งแรก เพราะรถนางเอกเสีย และก็ได้พระเอกมาเป็นคนช่วยเหลือ ช่วยกันไปช่วยกันมาก็ตกหลุมรักกันซะเลย แต่เส้นทางรักไม่ได้ราบรื่น เพราะในอดีต “แอสตัน” กับ “จาเร็ด”เคยมีเรื่องกันมาก่อน จนเกลียดขี้หน้าอีกฝ่ายยิ่งกว่าไส้เดือนกิ้งกือ มีฉากปะทะคารมระหว่าง “จาเร็ด” และ”แอสตัน” ที่สร้างความปวดหัวให้กับนางเอกทั้งสองคนเป็นอย่างมาก คู่นี้ชอบทะเลาะกันเหมือนเด็กค่ะ อ่านแล้วขำดี

ปมของเรื่องนี้นอกเหนือจากความรัก ยังมีเรื่องการการฆาตกรรม มาเกี่ยวข้องด้วย เหตุการณ์เริ่มต้นจากมีผู้ชายคนหนึ่งตายค่ะ และผู้ชายคนนี้ก็มีส่วนในการโกงบริษัทของพระเอกค่ะ ทำให้พระเอกทั้งคู่ต้องตามสืบ เพราะเรื่องเข้ามาพัวพันกันจนไม่น่าเชื่อ ปมในอดีตก็ถูกคลี่คลายพร้อมๆกับคนโกงที่โดนจับได้ ตัวร้ายเรื่องนี้ สำหรับดิฉัน อันดับหนึ่งมาแรงแซงทางโค้ง ยกให้กับ “เฮเลน” อดีตแฟนสาวของทั้ง “จาเร็ด”และ “แอสตัน” นางร้ายจริงไรจริง ลองไปติดตามดูค่ะ ว่าสุดท้ายแล้วความรักของทั้งสี่คนจะลงเอยอย่างไร

“เสน่หาตราใจ” เป็นนิยายที่ ถ้าหากใครเคยอ่าน Zombie prince รักลวงใจ มาแล้วเป็นที่รู้กันค่ะ ว่านิยายเล่มนี้มีอีกชื่อว่า ZP2 และพระเอกเรื่องนี้ก็เคยไปโผล่ในนิยายเรื่อง “ไฟรักราน” ในฐานะนายใหญ่แห่งตะวันอันดามัน รีสอร์ตกลางเกาะที่เป็นทั้งบ่อนและแหล่งค้าเนื้อสดค่ะ

จุดเริ่มต้นของการเจอกันระหว่างนางเอกกับพระเอกก็ไม่ได้ประทับใจเลยสักนิด นางเอก “สัภยา” หรือ “คุณน้อย” เป็นลูกเลี้ยงของสามีของ “เกวลี” ผู้หญิงที่ซื้อบริการพระเอก “คารม”หรือ “คาม” พระเอกมีแม่เป็นผู้หญิงขายบริการค่ะ และก็บังคับให้พระเอกขายด้วย แต่เมื่อพระเอกได้พบกับนางเอก เธอไม่เหมือนใครเพราะนางเอกเอาใจใส่เขาและให้ความรู้สึกว่าโลกนี้น่าอยู่มากขึ้นในสายตาพระเอก

เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อพระเอกถูกใส่ร้ายว่าฆ่าคนตาย จนเกือบเอาชีวิตไม่รอก โชคดีที่ได้นางเอกช่วยชีวิตเอาไว้ ระหว่างคู่นี้ดิฉันว่ามันเกินคำว่ารักไปแล้วค่ะ เพราะต่างคนต่างโหยหากันและกัน ดิฉันอ่านแล้วรู้สึกประทับใจและอินกับบทสนทนาหรือบทบรรยายในเรื่องมาก บอกไม่ถูกเหมือนกันค่ะ ต้องลองไปอ่านกันเอง


พระเอกเมื่อต้องหนีคดี และอยากให้ตัวเองทัดเทียมนางเอก เขาจึงเลือกทางเดินในโลกมืดค่ะ โดยการไปเป็นนายใหญ่ของพวกค้าเนื้อสดและการพนัน แม้ว่าเขาจะไม่เคยรักใครนอกจากนางเอก แต่เขาก็ไม่เคยโผล่มาให้เธอเห็น จนกระทั่งมีข่าวว่านางเอกกำลังจะหมั้น พระเอกก็ออกอาการหึงหวงทันที เขารีบมาหานางเอก ฝ่ายนางเอกนั้นแม้เธอจะรักพระเอก แต่ก็ไม่อยากรักคนที่ทำอาชีพแบบพระเอก แต่พระเอกไม่สามารถกลับตัวได้แล้วค่ะ เขาขึ้นหลังเสือไปแล้ว

ความสนุกของนิยายเรื่องนี้ในสายตาดิฉันคือ พระเอกจะทำอย่างไรที่จะออกจากวงการได้ เพื่อให้ได้มาอยู่กับนางเอก ผู้เขียนทำได้ดีจนดิฉันต้องยกนิ้วให้เลยค่ะ เพราะตื่นเต้นและน่าติดตามมาก แผนการต่างๆเพื่อให้พระเอกสามารถหลุดจากวงการได้ก็ถูกถ่ายทอดผ่านนิยายได้อย่างลงตัว คือแผนซ้อนแผน คิดตามแทบไม่ทัน เพราะพวก Back up ของขบวนการพวกนี้ก็ต้องเป็นระดับเป้งอยู่แล้ว ถ้าพลาดคือชีวิตพระเอกจบ นางเอกก็รู้และพยายามช่วยเพราะเธออยากให้เขาคู่ควรกับความรักของเธอ นางเอกเรื่องนี้เธอไม่รักคนไม่ดีค่ะ

งานนี้สำเร็จได้ในที่สุด เพราะมีหลายฝ่ายช่วยกัน พระเอกยอมให้ความร่วมมือกับตำรวจ และตำรวจน้ำนี้ยังมีอยู่ในนิยายเรื่องนี้ ที่ยอมงัดข้อกับระดับบิ๊ก ตอนจบพระเอกก็รับกรรมไปกับสิ่งที่ตัวเองทำค่ะ ถึงไม่ตายแต่เพราะเขาก็ไม่ได้ทำอาชีพสุจริตเนอะ ถ้าให้จบแบบแฮปปี้ไม่โดนอะไรเลย ดิฉันคงตะหงิดใจค่ะ แต่สำหรับเรื่องนื้ถือว่าจุดจบของพระเอก ดิฉันโอเคกับมันมาก แบบสปอยว่าทั้งคู่ได้ใช้ชีวิตร่วมกันในไร่ มีตอนพิเศษหวานๆให้ติดตามหลังเรื่องร้ายผ่านพ้นไป ช่วงสวีทของพระนาง อิอิ เป็นนิยายอีกเรื่องที่ดิฉันอยากแนะนำให้หามาอ่านกันค่ะ

“เสน่หาตราใจ” เป็นนิยายที่ ถ้าหากใครเคยอ่าน Zombie prince รักลวงใจ มาแล้วเป็นที่รู้กันค่ะ ว่านิยายเล่มนี้มีอีกชื่อว่า ZP2 และพระเอกเรื่องนี้ก็เคยไปโผล่ในนิยายเรื่อง “ไฟรักราน” ในฐานะนายใหญ่แห่งตะวันอันดามัน รีสอร์ตกลางเกาะที่เป็นทั้งบ่อนและแหล่งค้าเนื้อสดค่ะ

จุดเริ่มต้นของการเจอกันระหว่างนางเอกกับพระเอกก็ไม่ได้ประทับใจเลยสักนิด นางเอก “สัภยา” หรือ “คุณน้อย” เป็นลูกเลี้ยงของสามีของ “เกวลี” ผู้หญิงที่ซื้อบริการพระเอก “คารม”หรือ “คาม” พระเอกมีแม่เป็นผู้หญิงขายบริการค่ะ และก็บังคับให้พระเอกขายด้วย แต่เมื่อพระเอกได้พบกับนางเอก เธอไม่เหมือนใครเพราะนางเอกเอาใจใส่เขาและให้ความรู้สึกว่าโลกนี้น่าอยู่มากขึ้นในสายตาพระเอก

เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อพระเอกถูกใส่ร้ายว่าฆ่าคนตาย จนเกือบเอาชีวิตไม่รอก โชคดีที่ได้นางเอกช่วยชีวิตเอาไว้ ระหว่างคู่นี้ดิฉันว่ามันเกินคำว่ารักไปแล้วค่ะ เพราะต่างคนต่างโหยหากันและกัน ดิฉันอ่านแล้วรู้สึกประทับใจและอินกับบทสนทนาหรือบทบรรยายในเรื่องมาก บอกไม่ถูกเหมือนกันค่ะ ต้องลองไปอ่านกันเอง


พระเอกเมื่อต้องหนีคดี และอยากให้ตัวเองทัดเทียมนางเอก เขาจึงเลือกทางเดินในโลกมืดค่ะ โดยการไปเป็นนายใหญ่ของพวกค้าเนื้อสดและการพนัน แม้ว่าเขาจะไม่เคยรักใครนอกจากนางเอก แต่เขาก็ไม่เคยโผล่มาให้เธอเห็น จนกระทั่งมีข่าวว่านางเอกกำลังจะหมั้น พระเอกก็ออกอาการหึงหวงทันที เขารีบมาหานางเอก ฝ่ายนางเอกนั้นแม้เธอจะรักพระเอก แต่ก็ไม่อยากรักคนที่ทำอาชีพแบบพระเอก แต่พระเอกไม่สามารถกลับตัวได้แล้วค่ะ เขาขึ้นหลังเสือไปแล้ว

ความสนุกของนิยายเรื่องนี้ในสายตาดิฉันคือ พระเอกจะทำอย่างไรที่จะออกจากวงการได้ เพื่อให้ได้มาอยู่กับนางเอก ผู้เขียนทำได้ดีจนดิฉันต้องยกนิ้วให้เลยค่ะ เพราะตื่นเต้นและน่าติดตามมาก แผนการต่างๆเพื่อให้พระเอกสามารถหลุดจากวงการได้ก็ถูกถ่ายทอดผ่านนิยายได้อย่างลงตัว คือแผนซ้อนแผน คิดตามแทบไม่ทัน เพราะพวก Back up ของขบวนการพวกนี้ก็ต้องเป็นระดับเป้งอยู่แล้ว ถ้าพลาดคือชีวิตพระเอกจบ นางเอกก็รู้และพยายามช่วยเพราะเธออยากให้เขาคู่ควรกับความรักของเธอ นางเอกเรื่องนี้เธอไม่รักคนไม่ดีค่ะ

งานนี้สำเร็จได้ในที่สุด เพราะมีหลายฝ่ายช่วยกัน พระเอกยอมให้ความร่วมมือกับตำรวจ และตำรวจน้ำนี้ยังมีอยู่ในนิยายเรื่องนี้ ที่ยอมงัดข้อกับระดับบิ๊ก ตอนจบพระเอกก็รับกรรมไปกับสิ่งที่ตัวเองทำค่ะ ถึงไม่ตายแต่เพราะเขาก็ไม่ได้ทำอาชีพสุจริตเนอะ ถ้าให้จบแบบแฮปปี้ไม่โดนอะไรเลย ดิฉันคงตะหงิดใจค่ะ แต่สำหรับเรื่องนื้ถือว่าจุดจบของพระเอก ดิฉันโอเคกับมันมาก แบบสปอยว่าทั้งคู่ได้ใช้ชีวิตร่วมกันในไร่ มีตอนพิเศษหวานๆให้ติดตามหลังเรื่องร้ายผ่านพ้นไป ช่วงสวีทของพระนาง อิอิ เป็นนิยายอีกเรื่องที่ดิฉันอยากแนะนำให้หามาอ่านกันค่ะ

“สงครามพิศวาสจอมมาร” เป็นนิยายเล่มสองจากชุดเทพบุตรมารของคุณมณีจันท์ค่ะ ดิฉันชอบเล่มนี้สุดในบรรดาสามเล่ม ส่วนตัวคิดว่าเป็นเพราะมีอะไรให้ติดตามมากกว่า ทั้งคาเรกเตอร์ตัวละครและพล็อตของเรื่อง นิยายเรื่องนี้มีสองคู่ชูชื่นเหมือนกับอีกสองเล่มค่ะ

มาเริ่มกันที่คู่แรกกันก่อนเนอะ “เฟรดดริก ลีไลยูเชนโก” พระเอกคนนี้เขาเป็นเจ้าพ่อนักค้าอาวุธสงครามค่ะ มีฉายากิ๊บเก๋ยูเรก้าว่า “เฮดีส” มีหมาแสนรู้สุดเท่พันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ ชื่อว่า “เซอร์บีรัส” แหมมช่างเข้ากันดีจริงๆกับ “เฮดีส”ค่ะ ให้อารมณ์ดิบเถื่อนเร้าใจสุดๆ แต่หมาตัวนี้เป็นหมาหวงเจ้านายนะเออ เพราะมันจะเที่ยวไล่เห่าและกัดบรรดาสาวๆที่เจ้านายสุงสิงด้วย ยกเว้น “อิงลดา” นางเอกของเขาเองค่ะ ที่หมาตัวนี้ยอมเข้าใกล้และรู้สึกชอบเธอ จนพระเอกเองยังแปลกใจที่หมาเขาเชื่องกับนางเอก ตัวนางเอกเองเธอเป็นเด็กกำพร้าที่อยู่ในคอนแวนต์ตั้งแต่แบเบาะ และเธอก็มีสัมผัสพิเศษด้วยนะคะ นั่นคือนางเอกสามารถพยากรณ์เหตุการณ์ร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ เมื่อได้สัมผัสมือพระเอกโดยบังเอิญ นางเอกก็เริ่มกลัวเพราะสัมผัสได้แต่ถึงเลวร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้นเพราะเขา เธอกลัวและพยายามออกห่างเขาค่ะ

พระเอกนั้น เมื่อได้พบกับนางเอกครั้งแรก เขาก็ชอบเธอนั่นแหละ แต่เล่นตัวจนน่าโบก ว่านางเอกเสียๆหายๆว่าเป็นพวกหมอดูต้มตุ๋น คิดดูสิคะว่าขนาดหมาของเขาคิดถึงนางเอกจนไม่ยอมกินข้าวกินปลา เดือดร้อนพระเอกต้องพามันไปตามหานางเอก แต่ครั้งนี้พระเอกไม่ได้ไปคนเดียวค่ะ เขาพา “เซมิออน” เพื่อนสนิทของเขาไปด้วย

คงเดากันได้ไม่ยากใช่ไหมคะว่า “เซมิออน” ก็คือพระเอกอีกคนหนึ่งของเรื่องนี้ พอเขาตามเพื่อนของเขาไปที่คอนแวนต์ ก็ได้พบกับ “ธีรษา” เด็กกำพร้าที่เป็นเพื่อนสนิทของ “อิงลดา” ตัวนางเอกคนนี้เธอก็มีสัมผัสพิเศษเหมือนกันค่ะ พูดง่ายๆคือ ถ้าเกิดสัมผัสพิเศษของทั้ง “อิงลดา”และ “ธีรษา”มารวมกัน จะทำให้เห็นลางร้ายในอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นได้อย่างแม่นยำมากขึ้น

“เซมิออน” ชอบ “ธีรษา” ตั้งแต่แรกเห็นเลยค่ะ ได้โอกาสเหมาะพอดี เมื่อเพื่อนของเขาจ้าง “อิงลดา”ให้มาคอยดูแลหมา แต่ “ธีรษา”มาด้วยเพราะไม่อยากปล่อยให้เพื่อนไปกับชายแปลกหน้าลำพัง “เซมิออน”จึงได้โอกาสจีบเลยค่ะ อิอิ


ปมร้ายของเรื่องเริ่มต้นจากที่คุณแม่ที่รับอุปการะนางเอกทั้งสองคนถูกฆ่า และคอนแวนต์ก็ถูกเผา แม้เหตุการณ์นี้จะนำพาความเศร้ามาสู่สาวๆ แต่ก็เข้าทางเจ้าของหมา ซึ่งถือโอกาสรับนางเอกมาเลี้ยงซะเลย

ตอนแรกคู่ของ “เซมิออน”กับ “ธีรษา” ดูเหมือนจะเรื่องความรักนำโด่งไปไกลกว่าคู่แรกค่ะ ก็จีบกันมุ้งมิ้งไปมา ส่วนอีกคู่เจ้าของหมาก็มีเรื่องให้ต้องตามสืบเรื่องพวกนักค้าอาวุธสงครามที่ลักลอบขายให้กับพวกกบฎ คือถ้าพวกคนไม่ดีได้อาวุธที่มีความสามารถในการทำลายร้างสูงไป คงไม่ดีแน่ๆ นางเอกทั้งคู่เองก็อยากช่วยเพราะพวกเธอมีสัมผัสพิเศษ แล้วความหวังดีอยากช่วยของ “ธีรษา” ก็ทำให้ “เซมิออน”เข้าใจผิดค่ะ พระเอกคนนี้เขามีปมหลังฝังใจ ถูกคนรักหักหลัง ทำให้เขายากที่จะเชื่อใจใคร ดังนั้นเมื่อเข้าใจนางเอกผิด เขาจึงผิดหวังอยากรุนแรงและเผลอทำรุนแรงโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่พอรู้ความจริงเขาก็เสียใจในการกระทำของเขานะคะ พยามง้อมาขอโทษนางเอก ส่วนจะลงเอยอย่างไรต้องติดตามต่อในเล่มนะคะ


เรื่องคดีลอบค้าอาวุธไม่ยากเกินความสามารถของพระเอกทั้งสอง เขาตามสืบจนรู้คนอยู่เบื้องหลัง ค่อนข้างซับซ้อนซ่อนเงื่อนนิดหน่อยค่ะ สำหรับปมในเรื่องนี้ คนร้ายมีความเกี่ยวพันกันเยอะ แต่ถือว่าผู้เขียนทำได้ดี อ่านแล้วน่าติดตาม ชวนตื่นเต้นมากค่ะ

“สงครามพิศวาสจอมมาร” เป็นนิยายเล่มสองจากชุดเทพบุตรมารของคุณมณีจันท์ค่ะ ดิฉันชอบเล่มนี้สุดในบรรดาสามเล่ม ส่วนตัวคิดว่าเป็นเพราะมีอะไรให้ติดตามมากกว่า ทั้งคาเรกเตอร์ตัวละครและพล็อตของเรื่อง นิยายเรื่องนี้มีสองคู่ชูชื่นเหมือนกับอีกสองเล่มค่ะ

มาเริ่มกันที่คู่แรกกันก่อนเนอะ “เฟรดดริก ลีไลยูเชนโก” พระเอกคนนี้เขาเป็นเจ้าพ่อนักค้าอาวุธสงครามค่ะ มีฉายากิ๊บเก๋ยูเรก้าว่า “เฮดีส” มีหมาแสนรู้สุดเท่พันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ ชื่อว่า “เซอร์บีรัส” แหมมช่างเข้ากันดีจริงๆกับ “เฮดีส”ค่ะ ให้อารมณ์ดิบเถื่อนเร้าใจสุดๆ แต่หมาตัวนี้เป็นหมาหวงเจ้านายนะเออ เพราะมันจะเที่ยวไล่เห่าและกัดบรรดาสาวๆที่เจ้านายสุงสิงด้วย ยกเว้น “อิงลดา” นางเอกของเขาเองค่ะ ที่หมาตัวนี้ยอมเข้าใกล้และรู้สึกชอบเธอ จนพระเอกเองยังแปลกใจที่หมาเขาเชื่องกับนางเอก ตัวนางเอกเองเธอเป็นเด็กกำพร้าที่อยู่ในคอนแวนต์ตั้งแต่แบเบาะ และเธอก็มีสัมผัสพิเศษด้วยนะคะ นั่นคือนางเอกสามารถพยากรณ์เหตุการณ์ร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ เมื่อได้สัมผัสมือพระเอกโดยบังเอิญ นางเอกก็เริ่มกลัวเพราะสัมผัสได้แต่ถึงเลวร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้นเพราะเขา เธอกลัวและพยายามออกห่างเขาค่ะ

พระเอกนั้น เมื่อได้พบกับนางเอกครั้งแรก เขาก็ชอบเธอนั่นแหละ แต่เล่นตัวจนน่าโบก ว่านางเอกเสียๆหายๆว่าเป็นพวกหมอดูต้มตุ๋น คิดดูสิคะว่าขนาดหมาของเขาคิดถึงนางเอกจนไม่ยอมกินข้าวกินปลา เดือดร้อนพระเอกต้องพามันไปตามหานางเอก แต่ครั้งนี้พระเอกไม่ได้ไปคนเดียวค่ะ เขาพา “เซมิออน” เพื่อนสนิทของเขาไปด้วย

คงเดากันได้ไม่ยากใช่ไหมคะว่า “เซมิออน” ก็คือพระเอกอีกคนหนึ่งของเรื่องนี้ พอเขาตามเพื่อนของเขาไปที่คอนแวนต์ ก็ได้พบกับ “ธีรษา” เด็กกำพร้าที่เป็นเพื่อนสนิทของ “อิงลดา” ตัวนางเอกคนนี้เธอก็มีสัมผัสพิเศษเหมือนกันค่ะ พูดง่ายๆคือ ถ้าเกิดสัมผัสพิเศษของทั้ง “อิงลดา”และ “ธีรษา”มารวมกัน จะทำให้เห็นลางร้ายในอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นได้อย่างแม่นยำมากขึ้น

“เซมิออน” ชอบ “ธีรษา” ตั้งแต่แรกเห็นเลยค่ะ ได้โอกาสเหมาะพอดี เมื่อเพื่อนของเขาจ้าง “อิงลดา”ให้มาคอยดูแลหมา แต่ “ธีรษา”มาด้วยเพราะไม่อยากปล่อยให้เพื่อนไปกับชายแปลกหน้าลำพัง “เซมิออน”จึงได้โอกาสจีบเลยค่ะ อิอิ


ปมร้ายของเรื่องเริ่มต้นจากที่คุณแม่ที่รับอุปการะนางเอกทั้งสองคนถูกฆ่า และคอนแวนต์ก็ถูกเผา แม้เหตุการณ์นี้จะนำพาความเศร้ามาสู่สาวๆ แต่ก็เข้าทางเจ้าของหมา ซึ่งถือโอกาสรับนางเอกมาเลี้ยงซะเลย

ตอนแรกคู่ของ “เซมิออน”กับ “ธีรษา” ดูเหมือนจะเรื่องความรักนำโด่งไปไกลกว่าคู่แรกค่ะ ก็จีบกันมุ้งมิ้งไปมา ส่วนอีกคู่เจ้าของหมาก็มีเรื่องให้ต้องตามสืบเรื่องพวกนักค้าอาวุธสงครามที่ลักลอบขายให้กับพวกกบฎ คือถ้าพวกคนไม่ดีได้อาวุธที่มีความสามารถในการทำลายร้างสูงไป คงไม่ดีแน่ๆ นางเอกทั้งคู่เองก็อยากช่วยเพราะพวกเธอมีสัมผัสพิเศษ แล้วความหวังดีอยากช่วยของ “ธีรษา” ก็ทำให้ “เซมิออน”เข้าใจผิดค่ะ พระเอกคนนี้เขามีปมหลังฝังใจ ถูกคนรักหักหลัง ทำให้เขายากที่จะเชื่อใจใคร ดังนั้นเมื่อเข้าใจนางเอกผิด เขาจึงผิดหวังอยากรุนแรงและเผลอทำรุนแรงโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่พอรู้ความจริงเขาก็เสียใจในการกระทำของเขานะคะ พยามง้อมาขอโทษนางเอก ส่วนจะลงเอยอย่างไรต้องติดตามต่อในเล่มนะคะ


เรื่องคดีลอบค้าอาวุธไม่ยากเกินความสามารถของพระเอกทั้งสอง เขาตามสืบจนรู้คนอยู่เบื้องหลัง ค่อนข้างซับซ้อนซ่อนเงื่อนนิดหน่อยค่ะ สำหรับปมในเรื่องนี้ คนร้ายมีความเกี่ยวพันกันเยอะ แต่ถือว่าผู้เขียนทำได้ดี อ่านแล้วน่าติดตาม ชวนตื่นเต้นมากค่ะ

ช่วงที่ไม่ค่อยมีเวลาแต่อยากอ่านนิยาย ดิฉันจะเลือกอ่านของ “ทัช พับลิชชิ่ง” ค่ะ และก็มีโอกาสได้อ่านเรื่อง “สิเน่หา อาญาซาตาน” พล็อตหลักของเรื่อง ไม่มีอะไรมากเลยค่ะ พระเอกเข้าใจผิดว่านางเอกมีส่วนทำให้น้องสาวของเขาตาย จึงจับนางเอกไปเพื่อแก้แค้น มาแนวนี้อีกแล้วววว

ครั้งแรกที่พระเอก “พีรพัฒน์” ได้พบกับนางเอก “รวิชญา”ครั้งแรก เขาก็ตกหลุมรักเธอดังโครมโดยไม่ทันตั้งตัว เพราะนางเอกเป็นคนสวย น่ารัก คือสมบูรณ์แบบมากจ้า เกิดในตระกูลที่ร่ำรวย เป็นลูกคุณหนูที่พ่อแม่เลี้ยงมาอย่างประคบประหงม ดูน่าทะนุถนอม แต่พระเอกยังไม่ทันได้สานต่อความสัมพันธ์ กลับต้องมาพบว่าน้องสาวคนเดียวของเขา ถูกฟันแล้วทิ้ง จนเธอท้อง ส่วนผู้ชายคนนั้นไม่สนใจน้องสาวเขาเลย เพราะผู้ชายคนนั้นรักนางเอก พระเอกแค้นจนแทบกระอัก เพราะคิดว่านางเอกเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ชายคนนั้นทิ้งน้องสาวเขาไป จนน้องสาวเขาตาย พระเอกสูญเสียทั้งน้องสาว ทั้งหลานในท้อง คือดิฉันอยากจะถามพระเอกว่า อัลไลของแกย้า นางเอกเขาไปเกี่ยวด้วยตอนไหน เป็นแฟนกับตานั่นรึก็เปล่า แล้วแกจะไปจับเขามาแก้แค้นทำเกี๊ยวน้ำอัลไลข่า อยากจิบ้าตายยย กับพระเอกสไตล์นี้มากค่ะ (แต่ก็ยังอ่านต่อเพราะอยากรู้ 55555)


พระเอกจึงวางแผนจับนางเอกมา ซึ่งมันก็ยากนะคะเพราะนางเอกมีคนตามตลอด บอกแล้ววววว ว่าบ้านเธอเลี้ยงอย่างไข่ในหิน แต่ก็ไม่เกินความสามารถพระเอกไปได้ เขาได้ตัวนางเอกมาในที่สุด แม้ตอนแรกตั้งใจว่าจะแก้แค้นให้นางเอกเจ็บปวด แต่ก็แพ้ใจตัวเองค่ะ เพราะเขารักนางเอกมาตั้งแต่แรกพบ ดังนั้นคุณพระเอกจึงตกอยู่ในภาวะสับสน ทั้งรักทั้งแค้น เขาก็สงสารนางเอกนะคะที่จับเธอมาทรมาน อีกอย่างนางเอกก็เป็นคนดี เอาง่ายๆเลย คนของพระเอกชอบนางเอกกันทั้งนั้น พระเอกจึงเหมือนจะเลิกล้มความตั้งใจที่จะแก้แค้น เพราะเขาอยากจะใช้ชีวิตคู่กับนางเอก

ทางบ้านนางเอกพอรู้นางเอกหายตัวไปก็เดือดสิคะ พ่อนางเอกโมโหมาก สืบจนรู้ว่าพระเอกลักพาตัวลูกสาวเขาไป ส่วนผู้ชายที่แอบชอบนางเอกก็ทนไม่ได้ เพราะเขารักนางเอก แม้นางเอกจะไม่รักเขาเลยก็ตาม


พออยู่ด้วยกันไปนาน คงไม่ต้องบอกนะคะว่านางเอกท้องแน่ๆ แม้พระเอกจะจับเธอมาและขืนใจ และการกระทำของเขาที่ดีต่อเธอ ทำให้นางเอกรักเขาได้ไม่ยากค่ะ พระเอกยื่นสัญญาว่าถ้านางเอกทำให้เขาพอใจ เขาจะพานางเอกกลับบ้าน ฝ่ายพระเอกไม่อยากให้นางเอกกลับแน่นอนอยู่แล้ว ส่วนนางเอกเองก็ใจหายที่ต้องจากพระเอกไป งานนี้สุดท้ายความรักของคู่นี้จะลงเอยอย่างไรต้องติดตามต่อในเล่มนะคะ ว่าสุดท้ายแล้วพระเอกจะละทิ้งความแค้นได้จริงๆหรือเปล่า

ช่วงที่ไม่ค่อยมีเวลาแต่อยากอ่านนิยาย ดิฉันจะเลือกอ่านของ “ทัช พับลิชชิ่ง” ค่ะ และก็มีโอกาสได้อ่านเรื่อง “สิเน่หา อาญาซาตาน” พล็อตหลักของเรื่อง ไม่มีอะไรมากเลยค่ะ พระเอกเข้าใจผิดว่านางเอกมีส่วนทำให้น้องสาวของเขาตาย จึงจับนางเอกไปเพื่อแก้แค้น มาแนวนี้อีกแล้วววว

ครั้งแรกที่พระเอก “พีรพัฒน์” ได้พบกับนางเอก “รวิชญา”ครั้งแรก เขาก็ตกหลุมรักเธอดังโครมโดยไม่ทันตั้งตัว เพราะนางเอกเป็นคนสวย น่ารัก คือสมบูรณ์แบบมากจ้า เกิดในตระกูลที่ร่ำรวย เป็นลูกคุณหนูที่พ่อแม่เลี้ยงมาอย่างประคบประหงม ดูน่าทะนุถนอม แต่พระเอกยังไม่ทันได้สานต่อความสัมพันธ์ กลับต้องมาพบว่าน้องสาวคนเดียวของเขา ถูกฟันแล้วทิ้ง จนเธอท้อง ส่วนผู้ชายคนนั้นไม่สนใจน้องสาวเขาเลย เพราะผู้ชายคนนั้นรักนางเอก พระเอกแค้นจนแทบกระอัก เพราะคิดว่านางเอกเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ชายคนนั้นทิ้งน้องสาวเขาไป จนน้องสาวเขาตาย พระเอกสูญเสียทั้งน้องสาว ทั้งหลานในท้อง คือดิฉันอยากจะถามพระเอกว่า อัลไลของแกย้า นางเอกเขาไปเกี่ยวด้วยตอนไหน เป็นแฟนกับตานั่นรึก็เปล่า แล้วแกจะไปจับเขามาแก้แค้นทำเกี๊ยวน้ำอัลไลข่า อยากจิบ้าตายยย กับพระเอกสไตล์นี้มากค่ะ (แต่ก็ยังอ่านต่อเพราะอยากรู้ 55555)


พระเอกจึงวางแผนจับนางเอกมา ซึ่งมันก็ยากนะคะเพราะนางเอกมีคนตามตลอด บอกแล้ววววว ว่าบ้านเธอเลี้ยงอย่างไข่ในหิน แต่ก็ไม่เกินความสามารถพระเอกไปได้ เขาได้ตัวนางเอกมาในที่สุด แม้ตอนแรกตั้งใจว่าจะแก้แค้นให้นางเอกเจ็บปวด แต่ก็แพ้ใจตัวเองค่ะ เพราะเขารักนางเอกมาตั้งแต่แรกพบ ดังนั้นคุณพระเอกจึงตกอยู่ในภาวะสับสน ทั้งรักทั้งแค้น เขาก็สงสารนางเอกนะคะที่จับเธอมาทรมาน อีกอย่างนางเอกก็เป็นคนดี เอาง่ายๆเลย คนของพระเอกชอบนางเอกกันทั้งนั้น พระเอกจึงเหมือนจะเลิกล้มความตั้งใจที่จะแก้แค้น เพราะเขาอยากจะใช้ชีวิตคู่กับนางเอก

ทางบ้านนางเอกพอรู้นางเอกหายตัวไปก็เดือดสิคะ พ่อนางเอกโมโหมาก สืบจนรู้ว่าพระเอกลักพาตัวลูกสาวเขาไป ส่วนผู้ชายที่แอบชอบนางเอกก็ทนไม่ได้ เพราะเขารักนางเอก แม้นางเอกจะไม่รักเขาเลยก็ตาม


พออยู่ด้วยกันไปนาน คงไม่ต้องบอกนะคะว่านางเอกท้องแน่ๆ แม้พระเอกจะจับเธอมาและขืนใจ และการกระทำของเขาที่ดีต่อเธอ ทำให้นางเอกรักเขาได้ไม่ยากค่ะ พระเอกยื่นสัญญาว่าถ้านางเอกทำให้เขาพอใจ เขาจะพานางเอกกลับบ้าน ฝ่ายพระเอกไม่อยากให้นางเอกกลับแน่นอนอยู่แล้ว ส่วนนางเอกเองก็ใจหายที่ต้องจากพระเอกไป งานนี้สุดท้ายความรักของคู่นี้จะลงเอยอย่างไรต้องติดตามต่อในเล่มนะคะ ว่าสุดท้ายแล้วพระเอกจะละทิ้งความแค้นได้จริงๆหรือเปล่า

“กลรักบุพเพสวาท” แค่ฟังจากชื่อเรื่องก็คิดว่าเป็นนิยายแนวสยิวกิ๊วใช่ไหมคะ แต่บอกเลยว่าหลังจากอ่านแล้ว ความเห็นส่วนตัวของดิฉันคิดว่านิยายเรื่องนี้เป็นนิยายตลกมากกว่าค่ะ ฮ่าๆๆๆ ไม่รู้ทำไมเหมือนกันถึงขำ

นางเอก “ไลลดา” เธอเป็นดาราสาว ขี้วีนขี้เหวี่ยง เหมือนจะนิสัยไม่ดีเล็กๆ เพราะนางเอกเธอเกิดมาในตระกูลที่มีฐานะ ครบสูตร สวย รวย เก่ง แต่เธอก็มีนิสัยบ้านๆที่คนสนิทเท่านั้นนะคะที่จะรู้ อย่างเช่นผู้จัดการส่วนตัวของเธอ และที่สำคัญภายใต้หน้ากากจอมวีนตัวแม่ ความจริงแล้วเธอเป็นคนมีน้ำใจค่ะ

เรื่องมาเกิดเมื่อมีคนขยันใส่ร้ายนางเอกเหลือเกินค่ะ สรรหาให้นางเอกเป็นข่าวได้ไม่เว้นวัน แต่นางเอกก็คือนางเอกเนอะ ความเป็นคนดีทำให้นางเอกก็ไม่ได้เสียหานเท่าไหร่ คนที่ชอบเธอก็ชอบต่อไป ส่วนพวกแอนตี้แฟนก็ไม่ยอมเช่นเดิม นิยายเรื่องนี้นางเอกไม่มีชื่อเล่นนะคะ ผู้เขียนจะบรรยายและให้คนอื่นเรียกนางเอกเป็นชื่อจริงหมด ส่วนเรื่องที่มีคนใส่ร้ายนางเอก คนร้ายจะบันทึกความแค้นที่มีต่อนางเอกไว้ในบันทึกส่วนตัวค่ะ โดยผู้เขียนจะเปิดบทต่อไปของนิยาย โดยการนำข้อความในบันทึกของคนร้ายมาเริ่มต้นในทุกๆบท

ตัวละครน่าสงสัยมีหลายตัวค่ะ ทั้งดาราตัวร้ายที่แสดงออกอย่างตรงไปตรงมา ดาราจอมแอ๊บที่สร้างภาพแสนดีที่มาตีสนิทของนางเอกเป็นเพื่อน หรือว่าจะเป็นดาราหน้าใหม่ที่ดูหัวอ่อนและยอมลงให้ทุกคน ในที่สุดความอดทนของนางเอกก็หมดลงเพราะเธอเหนื่อยที่ต้องมาเจอเรื่องแย่ๆในวงการบันเทิง จึงเลือกที่จะปลอมตัวจนไม่เหลือเค้าดาราสาวสวย และได้พบกับ พระเอก “ชวัล” เขามีความหลัง ทำให้เกลียดพวกดารานางแบบฝังใจและไม่คิดว่าจะลงเอยกับคนในอาชีพนี้ แต่ทำไปทำมานางเอกตกกระไดพลอยโจนต้องมาเป็นแฟนกับพระเอกเพื่อตบตาสาวที่เขามาพัวพันกับเขา

การได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันทำให้พระเอกเห็นเนื้อแท้ว่านางเอกเป็นคนดี เขาจึงตกหลุมรักเธอค่ะ โดยที่ยังไม่รู้ว่าเธอคือดาราชื่อดัง คนของพระเอกก็ชอบนางเอกทุกคนเพราะนางเอกเป็นคนน่ารัก ส่วนชีวิตในวงการบันเทิง ฝ่ายดีก็พยายามตามหาตัวนางเอก ส่วนคนร้ายก็ดีใจไม่น้อยที่นางเอกหายตัวไป เพราะทำให้โอกาสดีๆตกมาถึงตัวเธอ แต่นางเอกก็ไม่ได้ไร้ความรับผิดชอบถึงขนาดถึงภาระตัวเองมาหรอกนะคะ เธอรู้ว่าเธอมีหน้าที่ ประกอบกับความแตก พระเอกรู้ว่านางเอกเป็นดารา ตอนแรกก็โกรธแหละค่ะ แต่ทำไงได้ มันรักไปแล้ว แต่พระเอกแสดงออกตรงข้าม คือมาแนวๆกักขังนางเอกเพราะกลัวเธอทิ้งเขาไป นางเอกจึงตัดสินใจว่าเธอจะไปจบเรื่องในวงการบันเทิงเป็นการอำลาจอ เพื่อมาอยู่กับคนที่เธอรัก การกลับมาของนางเอก ทุกคนต่างงงค่ะ เพราะนางเอกเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น และในที่สุดก็ได้รู้ตัวคนร้ายค่ะ จุดจบของนิยายเรื่องนี้ไม่หนักเลย เพราะอย่างที่บอกแหละค่ะว่าไม่ใช่นิยายดราม่า ดังนั้นตอนจบตัวละครทุกตัวก็มีทางออกของตัวเอง พระเอกนางเอกก็ได้รักกันอย่างมีความสุข

“กลรักบุพเพสวาท” แค่ฟังจากชื่อเรื่องก็คิดว่าเป็นนิยายแนวสยิวกิ๊วใช่ไหมคะ แต่บอกเลยว่าหลังจากอ่านแล้ว ความเห็นส่วนตัวของดิฉันคิดว่านิยายเรื่องนี้เป็นนิยายตลกมากกว่าค่ะ ฮ่าๆๆๆ ไม่รู้ทำไมเหมือนกันถึงขำ

นางเอก “ไลลดา” เธอเป็นดาราสาว ขี้วีนขี้เหวี่ยง เหมือนจะนิสัยไม่ดีเล็กๆ เพราะนางเอกเธอเกิดมาในตระกูลที่มีฐานะ ครบสูตร สวย รวย เก่ง แต่เธอก็มีนิสัยบ้านๆที่คนสนิทเท่านั้นนะคะที่จะรู้ อย่างเช่นผู้จัดการส่วนตัวของเธอ และที่สำคัญภายใต้หน้ากากจอมวีนตัวแม่ ความจริงแล้วเธอเป็นคนมีน้ำใจค่ะ

เรื่องมาเกิดเมื่อมีคนขยันใส่ร้ายนางเอกเหลือเกินค่ะ สรรหาให้นางเอกเป็นข่าวได้ไม่เว้นวัน แต่นางเอกก็คือนางเอกเนอะ ความเป็นคนดีทำให้นางเอกก็ไม่ได้เสียหานเท่าไหร่ คนที่ชอบเธอก็ชอบต่อไป ส่วนพวกแอนตี้แฟนก็ไม่ยอมเช่นเดิม นิยายเรื่องนี้นางเอกไม่มีชื่อเล่นนะคะ ผู้เขียนจะบรรยายและให้คนอื่นเรียกนางเอกเป็นชื่อจริงหมด ส่วนเรื่องที่มีคนใส่ร้ายนางเอก คนร้ายจะบันทึกความแค้นที่มีต่อนางเอกไว้ในบันทึกส่วนตัวค่ะ โดยผู้เขียนจะเปิดบทต่อไปของนิยาย โดยการนำข้อความในบันทึกของคนร้ายมาเริ่มต้นในทุกๆบท

ตัวละครน่าสงสัยมีหลายตัวค่ะ ทั้งดาราตัวร้ายที่แสดงออกอย่างตรงไปตรงมา ดาราจอมแอ๊บที่สร้างภาพแสนดีที่มาตีสนิทของนางเอกเป็นเพื่อน หรือว่าจะเป็นดาราหน้าใหม่ที่ดูหัวอ่อนและยอมลงให้ทุกคน ในที่สุดความอดทนของนางเอกก็หมดลงเพราะเธอเหนื่อยที่ต้องมาเจอเรื่องแย่ๆในวงการบันเทิง จึงเลือกที่จะปลอมตัวจนไม่เหลือเค้าดาราสาวสวย และได้พบกับ พระเอก “ชวัล” เขามีความหลัง ทำให้เกลียดพวกดารานางแบบฝังใจและไม่คิดว่าจะลงเอยกับคนในอาชีพนี้ แต่ทำไปทำมานางเอกตกกระไดพลอยโจนต้องมาเป็นแฟนกับพระเอกเพื่อตบตาสาวที่เขามาพัวพันกับเขา

การได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันทำให้พระเอกเห็นเนื้อแท้ว่านางเอกเป็นคนดี เขาจึงตกหลุมรักเธอค่ะ โดยที่ยังไม่รู้ว่าเธอคือดาราชื่อดัง คนของพระเอกก็ชอบนางเอกทุกคนเพราะนางเอกเป็นคนน่ารัก ส่วนชีวิตในวงการบันเทิง ฝ่ายดีก็พยายามตามหาตัวนางเอก ส่วนคนร้ายก็ดีใจไม่น้อยที่นางเอกหายตัวไป เพราะทำให้โอกาสดีๆตกมาถึงตัวเธอ แต่นางเอกก็ไม่ได้ไร้ความรับผิดชอบถึงขนาดถึงภาระตัวเองมาหรอกนะคะ เธอรู้ว่าเธอมีหน้าที่ ประกอบกับความแตก พระเอกรู้ว่านางเอกเป็นดารา ตอนแรกก็โกรธแหละค่ะ แต่ทำไงได้ มันรักไปแล้ว แต่พระเอกแสดงออกตรงข้าม คือมาแนวๆกักขังนางเอกเพราะกลัวเธอทิ้งเขาไป นางเอกจึงตัดสินใจว่าเธอจะไปจบเรื่องในวงการบันเทิงเป็นการอำลาจอ เพื่อมาอยู่กับคนที่เธอรัก การกลับมาของนางเอก ทุกคนต่างงงค่ะ เพราะนางเอกเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น และในที่สุดก็ได้รู้ตัวคนร้ายค่ะ จุดจบของนิยายเรื่องนี้ไม่หนักเลย เพราะอย่างที่บอกแหละค่ะว่าไม่ใช่นิยายดราม่า ดังนั้นตอนจบตัวละครทุกตัวก็มีทางออกของตัวเอง พระเอกนางเอกก็ได้รักกันอย่างมีความสุข

“ร้อยเล่ห์กลรัก” เป็นนิยายของ “โมริสา” เล่มแรกที่ดิฉันได้มีโอกาสอ่าน เรื่องเริ่มต้นขึ้นเพราะคำเดียวเลยค่ะ “เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด” เรื่องนี้พระเอกเจ้าเล่ห์มากค่ะขอบอก

ว่าแล้ว อันดับแรกก็มาเริ่มกันที่พระเอกเลยค่ะ “ภานุรุจ” หรือพระเอกเรื่องนี้ เขาเป็นลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส มีชื่อฝรั่งเศสไพเราะเพราะพริ้งด้วยน๊า แต่เขาเลือกที่จะสละทิ้งความเป็นชาวปาริเซียงเพราะอยากถือสัญชาติไทยเพื่อนางเอกค่ะ ทั้งเขาและเพื่อนสนิทต่างปิ๊งนางเอกมาตั้งแต่สมัยยังเรียนมหาวิทยาลัย แต่เพื่อนพระเอกเล่นไม่ซื่อ ทำให้พระเอกหมดโอกาสจีบนางเอก แต่เขาก็ยังตัดใจจากนางเอกไม่ได้ คือแบบว่าดิฉันเหลือเชื่อมากเลยว่ามีผู้ชายแบบนี้อยู่บนโลกใบนี้จริงๆ อะไรจะรักปักใจปานนั้น นางเอกก็ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวเลยนะคะ

นางเอก “ศศิพันธุ์” เธอเป็นคนน่ารักค่ะ เอาจริงๆดิฉันยังไม่ค่อยเห็นคาเรกเตอร์ของเธอชัเจนเท่าไหร่ แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะนางเอกเป็นคนดีก็พอแล้ว ฮา นางเอกมีเพื่อนสนิทเป็นญาติสาวของพระเอก ซึ่งรู้มาตั้งแต่ต้นว่าพระเอกชอบนางเอก และก็รู้ด้วยว่าเพื่อนพระเอกไม่ใช่คนดีอะไร

เรื่องมาเกิดเมื่อนางเอกถูกเพื่อนพระเอกบอกเลิก เพราะเขาจะไปแต่งงานกับอาจารย์คนหนึ่ง อาจารย์คนนี้เป็นสาวใหญ่ที่หลงรักเพื่อนสนิทพระเอกซึ่งเป็นลูกศิษย์ตัวเอง และในที่สุด ทั้งคู่ก็ได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้งจนไปถึงขั้นแต่งงาน ส่วนเพื่อนพระเอกไม่ได้อยากมีเมียแก่หรอกนะคะ เขาแค้นเพราะพระเอกเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องมาแต่งงานกับอาจารย์ และแค้นที่พระเอกทำให้เขาเสียนางเอกไป คนเราก็เนอะ ไม่เคยมองความผิดตัวเองเล้ยย

ตามชื่อเรื่องนั่นแหละค่ะ พระเอกเจ้าเล่ห์วางแผนทั้งหมดให้เพื่อนสนิทกับอาจารย์ต้องแต่งานกัน ดิฉันไม่ได้เข้าข้างพระเอกนะคะ ถ้าเพื่อนพระเอกรักนางเอกจริงๆเรื่องคงไม่เกิด แต่เพราะพระเอกรู้จักเพื่อนตัวเองดี ที่นี้พอทำให้นางเอกเลิกกับเพื่อนตัวเองได้ เขาจึงกลับเข้ามาในชีวิตนางเอกอีกครั้ง เพื่อจีบนางเอก คือเขาบอกคนอื่นว่าเขาเชื่อว่านางเอกเป็นเนื้อคู่ โรแมนติกมากค่ะ อ่านแล้วเขินแทนนางเอกเลยที่มีคนรักตัวเองมากขนาดนี้ นางเอกก็ยอมใจอ่อนและรู้สึกว่าตัวเองรักพระเอกมากกว่าแฟนที่คบกันมานานอย่างเพื่อนพระเอกด้วยซ้ำ

ความสุขเกิดได้ไม่นานเมื่อความเจ้าเล่ห์ของพระเอกถูกเปิดโปง นางเอกก็โกรธสิคะ แต่รอบตัวพระเอกมีแต่คนดี ทุกคนจึงช่วยเหลือและคอยส่งเสริมให้นางเอกยอมให้อภัยพระเอกที่รักนางเอกมาเนิ่นนาน ตอนหลังนางเอกจึงยอมให้อภัยค่ะ แต่ก่อนให้อภัยเนี่ย ไม่ได้ใจอ่อนง่ายนะคะ ไปอ่านต่อในเล่มเนอะว่านางเอกทำอย่างไร ส่วนตอนจบพระเอกก็ยังไม่เลิกความเจ้าเล่ห์ค่ะ เพียงแต่ครั้งนี้นางเอกจับไม่ได้เลยรอดตัวไป ฮ่าๆๆๆ

“ร้อยเล่ห์กลรัก” เป็นนิยายของ “โมริสา” เล่มแรกที่ดิฉันได้มีโอกาสอ่าน เรื่องเริ่มต้นขึ้นเพราะคำเดียวเลยค่ะ “เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด” เรื่องนี้พระเอกเจ้าเล่ห์มากค่ะขอบอก

ว่าแล้ว อันดับแรกก็มาเริ่มกันที่พระเอกเลยค่ะ “ภานุรุจ” หรือพระเอกเรื่องนี้ เขาเป็นลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส มีชื่อฝรั่งเศสไพเราะเพราะพริ้งด้วยน๊า แต่เขาเลือกที่จะสละทิ้งความเป็นชาวปาริเซียงเพราะอยากถือสัญชาติไทยเพื่อนางเอกค่ะ ทั้งเขาและเพื่อนสนิทต่างปิ๊งนางเอกมาตั้งแต่สมัยยังเรียนมหาวิทยาลัย แต่เพื่อนพระเอกเล่นไม่ซื่อ ทำให้พระเอกหมดโอกาสจีบนางเอก แต่เขาก็ยังตัดใจจากนางเอกไม่ได้ คือแบบว่าดิฉันเหลือเชื่อมากเลยว่ามีผู้ชายแบบนี้อยู่บนโลกใบนี้จริงๆ อะไรจะรักปักใจปานนั้น นางเอกก็ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวเลยนะคะ

นางเอก “ศศิพันธุ์” เธอเป็นคนน่ารักค่ะ เอาจริงๆดิฉันยังไม่ค่อยเห็นคาเรกเตอร์ของเธอชัเจนเท่าไหร่ แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะนางเอกเป็นคนดีก็พอแล้ว ฮา นางเอกมีเพื่อนสนิทเป็นญาติสาวของพระเอก ซึ่งรู้มาตั้งแต่ต้นว่าพระเอกชอบนางเอก และก็รู้ด้วยว่าเพื่อนพระเอกไม่ใช่คนดีอะไร

เรื่องมาเกิดเมื่อนางเอกถูกเพื่อนพระเอกบอกเลิก เพราะเขาจะไปแต่งงานกับอาจารย์คนหนึ่ง อาจารย์คนนี้เป็นสาวใหญ่ที่หลงรักเพื่อนสนิทพระเอกซึ่งเป็นลูกศิษย์ตัวเอง และในที่สุด ทั้งคู่ก็ได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้งจนไปถึงขั้นแต่งงาน ส่วนเพื่อนพระเอกไม่ได้อยากมีเมียแก่หรอกนะคะ เขาแค้นเพราะพระเอกเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องมาแต่งงานกับอาจารย์ และแค้นที่พระเอกทำให้เขาเสียนางเอกไป คนเราก็เนอะ ไม่เคยมองความผิดตัวเองเล้ยย

ตามชื่อเรื่องนั่นแหละค่ะ พระเอกเจ้าเล่ห์วางแผนทั้งหมดให้เพื่อนสนิทกับอาจารย์ต้องแต่งานกัน ดิฉันไม่ได้เข้าข้างพระเอกนะคะ ถ้าเพื่อนพระเอกรักนางเอกจริงๆเรื่องคงไม่เกิด แต่เพราะพระเอกรู้จักเพื่อนตัวเองดี ที่นี้พอทำให้นางเอกเลิกกับเพื่อนตัวเองได้ เขาจึงกลับเข้ามาในชีวิตนางเอกอีกครั้ง เพื่อจีบนางเอก คือเขาบอกคนอื่นว่าเขาเชื่อว่านางเอกเป็นเนื้อคู่ โรแมนติกมากค่ะ อ่านแล้วเขินแทนนางเอกเลยที่มีคนรักตัวเองมากขนาดนี้ นางเอกก็ยอมใจอ่อนและรู้สึกว่าตัวเองรักพระเอกมากกว่าแฟนที่คบกันมานานอย่างเพื่อนพระเอกด้วยซ้ำ

ความสุขเกิดได้ไม่นานเมื่อความเจ้าเล่ห์ของพระเอกถูกเปิดโปง นางเอกก็โกรธสิคะ แต่รอบตัวพระเอกมีแต่คนดี ทุกคนจึงช่วยเหลือและคอยส่งเสริมให้นางเอกยอมให้อภัยพระเอกที่รักนางเอกมาเนิ่นนาน ตอนหลังนางเอกจึงยอมให้อภัยค่ะ แต่ก่อนให้อภัยเนี่ย ไม่ได้ใจอ่อนง่ายนะคะ ไปอ่านต่อในเล่มเนอะว่านางเอกทำอย่างไร ส่วนตอนจบพระเอกก็ยังไม่เลิกความเจ้าเล่ห์ค่ะ เพียงแต่ครั้งนี้นางเอกจับไม่ได้เลยรอดตัวไป ฮ่าๆๆๆ

“บอกลาขาใหญ่” เป็นหนังสือให้ความรู้ ที่มาของขาใหญ่ ผสมฮาวทูเล็กน้อย ดิฉันเชื่อว่าสาวๆทุกคนคงมีความฝันอยากให้ตัวเองมีเรียวขาสวยๆกันใช่ไหมคะ แต่ละคนก็มีวิธีลดขาในสไตล์ที่แตกต่างกันไป ซึงสาวๆอย่างพวกเราก็ไม่รู้กันหรอกเนอะ ว่าสิ่งที่พวกเราปฏิบัติกันมันเป็นสิ่งที่ช่วยลดขาใหญ่จริงหรือเปล่า และหนังสือเล่มนี้จะมาบอกค่ะ ว่าอะไรคือสาเหตทีแท้จริงของการมีขาใหญ่ ทำไมนะ บางคนพยายามสรรหาวิธีมาลดแต่ขากลับดันใหญ่ขึ้น แอบกระซิบบอกกันไว้ตรงนี้เลยก็ได้ค่ะว่าสาเหตุหลัก ต้นเหตุของความใหญ่ของขามาจากพฤติกรรมการกินนิเอง ผู้เขียนได้มีการพูดคุยไว้ในคำนำว่าถ้าหากเรารู้สาเหตุ สาวๆก็จะสามารถจัดการกับขาใหญ่ให้กลายเป็นขาเรียวเล็ก ประมาณอาทิตย์นึงก็จะเห็นผลความเปลี่ยนแปลงแล้วค่ะ


ว่าแล้วก็มาเริ่มที่บทแรกกันเลยดีกว่า เริ่มแรกนั่นผู้เขียนจะอธิบายตามหลักวิชาการก่อนค่ะ ว่าทำไมขาของสาวๆแต่ละคนถึงใหญ่เล็กไม่เท่ากัน บางคนใส่กางเกงขาสั้นแล้วส๊วยสวย ขณะที่บางคนใส่แล้วดูไม่มั่นใจในตัวเอง ดังนั้นเมื่อรู้แล้วผู้เขียนจะขึ้นบทต่อไปเกี่ยวกับการกินค่ะ ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อเพียงแค่การกินในชีวิตประจำวันของพวกเราก็ส่งผลต่อขาได้ คนส่วนมาก เมื่อรู้สึกว่าตัวเองอ้วนหรือสัดส่วนใหญ๋ก็จะลดหรืออดอาหารกัน แต่หนังสือเล่มนี้ไม่ได้แนะนำเช่นนั้นค่ะ เพราะยิ่งลดก็ยิ่งทำให้อ้วน ดังนั้นจึงมีการแนะนำเมนูง่ายๆให้ด้วยนะคะ เหมาะกับสุขภาพและช่วยลดขาด้วย แฮะๆ ช่วยสองเด้งเลยทีเดียว พวกสาวๆ ออฟฟิศนิพฤติกรรมการกินน่าเป็นห่างสุด เพราะมักจะละเลยความสำคัญของมื้อเย็น (เผลอๆมือเช้าอีกเพราะตื่นสาย ฮ่าๆๆ) หนังสือเล่มนี้จะแนะนำค่ะ ว่าเราควรกินมื้อเย็นอย่างไร เวลาไหนถึงจะเหมาะสม


การกินอาหารที่มีรสจัดเกินไปก็ไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นเค็มหรือหวาน เพราะมีส่วนทำให้ขาของเราบวมได้ บวมก็คือขาใหญ่ดีๆนิเอง ยิ่งผู้หญิงอาจจะหนักกว่าผู้ชาย เพราะฮอร์โมนของเพศหญิงเป็นปัจจัยสำคัญทำให้อ้วนลงล่าง เป็นหญิงลำบากจริงๆเนอะ T-T


การดื่มน้ำก็มีส่วนช่วยให้ผอมได้ค่ะ ถ้าอยากรู้ว่าทำไม ต้องไปติดตามอ่านในเล่มกันนะคะ นอกจากนี้ผู้เขียนยงอธิบายความสำคัญของการเลือกชุดชั้นในด้วยค่ะ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขาของสาวๆอย่างเรา อิอิ แต่ทั้งหมดทั้งมวลการกินอาหารที่ดีและมีประโยชน์ ก็ควรจะออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย แต่ควรออกให้ถูกวิธีนะคะ ไม่งั้นจากหวังขาสวยๆ อาจจะกลานเป็นขาล่ำขึ้นกล้ามแทนได้

“บอกลาขาใหญ่” เป็นหนังสือให้ความรู้ ที่มาของขาใหญ่ ผสมฮาวทูเล็กน้อย ดิฉันเชื่อว่าสาวๆทุกคนคงมีความฝันอยากให้ตัวเองมีเรียวขาสวยๆกันใช่ไหมคะ แต่ละคนก็มีวิธีลดขาในสไตล์ที่แตกต่างกันไป ซึงสาวๆอย่างพวกเราก็ไม่รู้กันหรอกเนอะ ว่าสิ่งที่พวกเราปฏิบัติกันมันเป็นสิ่งที่ช่วยลดขาใหญ่จริงหรือเปล่า และหนังสือเล่มนี้จะมาบอกค่ะ ว่าอะไรคือสาเหตทีแท้จริงของการมีขาใหญ่ ทำไมนะ บางคนพยายามสรรหาวิธีมาลดแต่ขากลับดันใหญ่ขึ้น แอบกระซิบบอกกันไว้ตรงนี้เลยก็ได้ค่ะว่าสาเหตุหลัก ต้นเหตุของความใหญ่ของขามาจากพฤติกรรมการกินนิเอง ผู้เขียนได้มีการพูดคุยไว้ในคำนำว่าถ้าหากเรารู้สาเหตุ สาวๆก็จะสามารถจัดการกับขาใหญ่ให้กลายเป็นขาเรียวเล็ก ประมาณอาทิตย์นึงก็จะเห็นผลความเปลี่ยนแปลงแล้วค่ะ


ว่าแล้วก็มาเริ่มที่บทแรกกันเลยดีกว่า เริ่มแรกนั่นผู้เขียนจะอธิบายตามหลักวิชาการก่อนค่ะ ว่าทำไมขาของสาวๆแต่ละคนถึงใหญ่เล็กไม่เท่ากัน บางคนใส่กางเกงขาสั้นแล้วส๊วยสวย ขณะที่บางคนใส่แล้วดูไม่มั่นใจในตัวเอง ดังนั้นเมื่อรู้แล้วผู้เขียนจะขึ้นบทต่อไปเกี่ยวกับการกินค่ะ ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อเพียงแค่การกินในชีวิตประจำวันของพวกเราก็ส่งผลต่อขาได้ คนส่วนมาก เมื่อรู้สึกว่าตัวเองอ้วนหรือสัดส่วนใหญ๋ก็จะลดหรืออดอาหารกัน แต่หนังสือเล่มนี้ไม่ได้แนะนำเช่นนั้นค่ะ เพราะยิ่งลดก็ยิ่งทำให้อ้วน ดังนั้นจึงมีการแนะนำเมนูง่ายๆให้ด้วยนะคะ เหมาะกับสุขภาพและช่วยลดขาด้วย แฮะๆ ช่วยสองเด้งเลยทีเดียว พวกสาวๆ ออฟฟิศนิพฤติกรรมการกินน่าเป็นห่างสุด เพราะมักจะละเลยความสำคัญของมื้อเย็น (เผลอๆมือเช้าอีกเพราะตื่นสาย ฮ่าๆๆ) หนังสือเล่มนี้จะแนะนำค่ะ ว่าเราควรกินมื้อเย็นอย่างไร เวลาไหนถึงจะเหมาะสม


การกินอาหารที่มีรสจัดเกินไปก็ไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นเค็มหรือหวาน เพราะมีส่วนทำให้ขาของเราบวมได้ บวมก็คือขาใหญ่ดีๆนิเอง ยิ่งผู้หญิงอาจจะหนักกว่าผู้ชาย เพราะฮอร์โมนของเพศหญิงเป็นปัจจัยสำคัญทำให้อ้วนลงล่าง เป็นหญิงลำบากจริงๆเนอะ T-T


การดื่มน้ำก็มีส่วนช่วยให้ผอมได้ค่ะ ถ้าอยากรู้ว่าทำไม ต้องไปติดตามอ่านในเล่มกันนะคะ นอกจากนี้ผู้เขียนยงอธิบายความสำคัญของการเลือกชุดชั้นในด้วยค่ะ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขาของสาวๆอย่างเรา อิอิ แต่ทั้งหมดทั้งมวลการกินอาหารที่ดีและมีประโยชน์ ก็ควรจะออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย แต่ควรออกให้ถูกวิธีนะคะ ไม่งั้นจากหวังขาสวยๆ อาจจะกลานเป็นขาล่ำขึ้นกล้ามแทนได้

แล้วก็มาถึงคิวพี่ใหญ่ของตระกูลอย่าง “อเนชา” ที่ขึ้นแท่นเป็นพระเอกเต็มตัวใน “L Club Three... บ้านบุษบันคืนใจ” อยู่ๆก็มีผู้หวังดีโทรหาทนายความสุดหล่ออย่าง “อเนชา” เพราะเป็นห่วงว่านางเอก “พาณิภัค” จะถูกโกงจนหมดตัวโดยป้าแท้ๆที่ร่วมมือกับ “ชโยดม” ทนายความสายมืด นางเอกเรื่องนี้ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เมื่อพ่อแม่ตาย ป้าซึ่งเป็นญาติที่เหลืออยู่จึงได้กลายเป็นผู้ปกครองของนางเอกค่ะ


พระเอกจึงตัดสินใจมาช่วยเพราะเขาเชื่อว่าคนที่โทรมาหาเข้าต้องรู้แน่ๆว่าเขาต้องสนใจ และก็เป็นอย่างที่พระเอกคิดจริงๆค่ะ เมื่อเขาเดินทางไปพบคนที่โทรมา เขาได้พบกับเพื่อนเก่าที่เคยเรียนมหาวิทยาลัยมาด้วยกัน ตอนแรกพระเอกก็จำไม่ได้เพราะสมัยเรียนเพื่อนคนนี้แมนมว๊าก แต่ตอนนี้เพื่อนกลายเป็นสาวไปเสียแล้ว ฮา ที่สำคัญ เพื่อนของเขาคนนี้เคยโดย “ชโยดม” หลอกจนหมดตัว โชคดีที่ได้มาเจอคนที่โทรไปหาพระเอกเนี่ยแหละค่ะ ที่ให้งานทำ ดังนั้นเมื่อรู้ว่านางเอกกำลังจะลำบากเพราะ “ชโยดม” เธอ(เขา)จึงคิดถึงพระเอกขึ้นมา พระเอกก็เรื่องนี้ต้องมีเบื้องหน้าเบื้องหลังแน่ๆ เขารู้จัก “ชโยดม”มาตั้งแต่สมัยเรียนเหมือนกับเพื่อนสาวของเขา เพราะเรียนนิติฯมาด้วยกัน คือตัว “ชโยดม”ก็อิจฉาพระเอกมาตลอดเพราะพระเอกเกิดในตระกูลที่เพียบพร้อม มีแต่คนเอาใจรุมรัก ส่วนเขาต้องพยายามถีบตัวเองแทบตายก็ยังสู้พระเอกไม่ได้ “ชโยดม”จึงเลือกเดินในทางตรงข้ามกับพระเอก

ครั้งแรกที่พบกัน พระเอกไม่ชอบนางเอก เพราะเธอเป็นเด็กที่ยังเรียนมหาวิทยาลัย แต่คิดว่าตัวเองโตเสียเต็มประดา แอบเรียกนางเอกว่า “เด็กเปรต” ด้วยอ่า แรงขริงๆ อิอิ ส่วนนางเอกเธอก็คิดว่าพระเอกเป็นพวกโรคจิตค่ะ เพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นพระเอกดันจับหน้าอกนางเอก แม้จะโกรธที่ถูกเข้าใจผิด แต่พระเอกก็ยังไม่เลิกล้มความตั้งใจที่จะช่วยเธอ แหมๆๆ แยกประเด็นเป็นเสียด้วย อิอิ พระเอกเรื่องนี้เสน่ห์แรงไม่ธรรมดา ขนาดเพศเดียวกันอย่างเจ้านายเพื่อน(สาว)ยังมาแอบหลงรัก ลองจีบพระเอก แต่พระเอกก็พยายามปฏิเสธอย่างนุ่มนวล คือหน้าตาพระเอกดูเป็นคนซื่อๆค่ะ อีกฝ่ายเลยไม่ค่อยคิดว่าพระเอกจะโกรธ แต่เพื่อนสนิทที่เรียนมาด้วยกันรู้ดีว่าความจริงแล้วพระเอกร้ายกว่าที่คิด เจ้าคิดเจ้าแค้นด้วย อิอิ จึงแอบเตือนๆเจ้านายให้ตัดใจ เพราะถ้าพระเอกปรี๊ดขึ้นมาจะเป็นเรื่องใหญ่ ต้องอ่านบทบรรยายในเล่มค่ะ คือฮามาก

ส่วนนางเอก ภายนอกดูเป็นเด็กเปรตแบบที่พระเอกรียกนั่นแหละค่ะ แต่เนื้อแท้เธอเป็นคนดี ถูกเลี้ยงมาในครอบครัวที่อบอุ่น พอพ่อแม่ตายก็เลยเคว้ง เงินที่พ่อแม่ทิ้งไว้ก็ยังเบิกมาใช้ไม่ได้ เธอจึงต้องหางานพิเศษทำ แล้วก็มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น พระเอกจึงได้โอกาสตีเนียนเข้าไปในชีวิตนางเอกซะเลย นางเอกที่ขาดพ่อแม่ เมื่อเจอพระเอกก็อบอุ่นใจ แม้เขาจะขยันบ่น เทศน์เธอสารพัด นางเอกเริ่มหลงรักเขาแล้วค่ะ แต่คิดว่าพระเอกเป็นเกย์และรักกับเพื่อน(สาว)ตัวเองอยู่

พระเอกเมื่อได้เข้ามาใกล้ชิดนางเอก เขาจึงเริ่มรู้ว่านางเอกเป็นเด็กดี เขาจึงเริ่มสงสารที่นางเอกต้องเจอป้าโกง ก็แอบๆเตือนให้นางเอกไม่ให้ไว้ใจป้ามากไป เข้าไปดูบริษัทของพ่อแม่บ้าง ตอนแรกนางเอกก็ได้คิดอะไรหรอกนะคะ เพราะเธอมองโลกในแง่ดีและไว้ใจป้ามาก จนวันหนึ่งเธอทะเลาะกับพระเอก พระเอกงอนบินกลับกรุงเทพฯเลย แงๆๆ และทำให้เธอได้รู้ความจริงว่าป้าโกง พระเอกจึงต้องกลับมาหาเพราะเป็นห่วงนางเอก ทั้งคู่จึงได้ปรับความเข้าใจกัน และบอกความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง

เรื่องคดีก็ค่อยๆคลี่คลายค่ะ เพราะป้านางเอกถูกจับได้มาโกง ส่วน “ชโยดม”ลอยตัวเพราะเขาป้องกันตัวเองได้เป็นอย่างดี ปล่อยให้ป้านางเอกรับกรรมไปคนเดียว มีล้นระทึกนิดๆ เพราะ “ชโยดม”ร้ายพอตัว พระเอกถูกลอบทำร้าย แต่ก็ปิดคดีได้ค่ะ พอเรื่องเงินๆทองๆจบไป หลังจากนั้นก็เป็นเรื่องราวความรักของพระนาง มีตัวละครจาก L Club ภาคเก่าๆโผล่มาให้หายคิดถึงด้วยค่ะ

แล้วก็มาถึงคิวพี่ใหญ่ของตระกูลอย่าง “อเนชา” ที่ขึ้นแท่นเป็นพระเอกเต็มตัวใน “L Club Three... บ้านบุษบันคืนใจ” อยู่ๆก็มีผู้หวังดีโทรหาทนายความสุดหล่ออย่าง “อเนชา” เพราะเป็นห่วงว่านางเอก “พาณิภัค” จะถูกโกงจนหมดตัวโดยป้าแท้ๆที่ร่วมมือกับ “ชโยดม” ทนายความสายมืด นางเอกเรื่องนี้ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เมื่อพ่อแม่ตาย ป้าซึ่งเป็นญาติที่เหลืออยู่จึงได้กลายเป็นผู้ปกครองของนางเอกค่ะ


พระเอกจึงตัดสินใจมาช่วยเพราะเขาเชื่อว่าคนที่โทรมาหาเข้าต้องรู้แน่ๆว่าเขาต้องสนใจ และก็เป็นอย่างที่พระเอกคิดจริงๆค่ะ เมื่อเขาเดินทางไปพบคนที่โทรมา เขาได้พบกับเพื่อนเก่าที่เคยเรียนมหาวิทยาลัยมาด้วยกัน ตอนแรกพระเอกก็จำไม่ได้เพราะสมัยเรียนเพื่อนคนนี้แมนมว๊าก แต่ตอนนี้เพื่อนกลายเป็นสาวไปเสียแล้ว ฮา ที่สำคัญ เพื่อนของเขาคนนี้เคยโดย “ชโยดม” หลอกจนหมดตัว โชคดีที่ได้มาเจอคนที่โทรไปหาพระเอกเนี่ยแหละค่ะ ที่ให้งานทำ ดังนั้นเมื่อรู้ว่านางเอกกำลังจะลำบากเพราะ “ชโยดม” เธอ(เขา)จึงคิดถึงพระเอกขึ้นมา พระเอกก็เรื่องนี้ต้องมีเบื้องหน้าเบื้องหลังแน่ๆ เขารู้จัก “ชโยดม”มาตั้งแต่สมัยเรียนเหมือนกับเพื่อนสาวของเขา เพราะเรียนนิติฯมาด้วยกัน คือตัว “ชโยดม”ก็อิจฉาพระเอกมาตลอดเพราะพระเอกเกิดในตระกูลที่เพียบพร้อม มีแต่คนเอาใจรุมรัก ส่วนเขาต้องพยายามถีบตัวเองแทบตายก็ยังสู้พระเอกไม่ได้ “ชโยดม”จึงเลือกเดินในทางตรงข้ามกับพระเอก

ครั้งแรกที่พบกัน พระเอกไม่ชอบนางเอก เพราะเธอเป็นเด็กที่ยังเรียนมหาวิทยาลัย แต่คิดว่าตัวเองโตเสียเต็มประดา แอบเรียกนางเอกว่า “เด็กเปรต” ด้วยอ่า แรงขริงๆ อิอิ ส่วนนางเอกเธอก็คิดว่าพระเอกเป็นพวกโรคจิตค่ะ เพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นพระเอกดันจับหน้าอกนางเอก แม้จะโกรธที่ถูกเข้าใจผิด แต่พระเอกก็ยังไม่เลิกล้มความตั้งใจที่จะช่วยเธอ แหมๆๆ แยกประเด็นเป็นเสียด้วย อิอิ พระเอกเรื่องนี้เสน่ห์แรงไม่ธรรมดา ขนาดเพศเดียวกันอย่างเจ้านายเพื่อน(สาว)ยังมาแอบหลงรัก ลองจีบพระเอก แต่พระเอกก็พยายามปฏิเสธอย่างนุ่มนวล คือหน้าตาพระเอกดูเป็นคนซื่อๆค่ะ อีกฝ่ายเลยไม่ค่อยคิดว่าพระเอกจะโกรธ แต่เพื่อนสนิทที่เรียนมาด้วยกันรู้ดีว่าความจริงแล้วพระเอกร้ายกว่าที่คิด เจ้าคิดเจ้าแค้นด้วย อิอิ จึงแอบเตือนๆเจ้านายให้ตัดใจ เพราะถ้าพระเอกปรี๊ดขึ้นมาจะเป็นเรื่องใหญ่ ต้องอ่านบทบรรยายในเล่มค่ะ คือฮามาก

ส่วนนางเอก ภายนอกดูเป็นเด็กเปรตแบบที่พระเอกรียกนั่นแหละค่ะ แต่เนื้อแท้เธอเป็นคนดี ถูกเลี้ยงมาในครอบครัวที่อบอุ่น พอพ่อแม่ตายก็เลยเคว้ง เงินที่พ่อแม่ทิ้งไว้ก็ยังเบิกมาใช้ไม่ได้ เธอจึงต้องหางานพิเศษทำ แล้วก็มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น พระเอกจึงได้โอกาสตีเนียนเข้าไปในชีวิตนางเอกซะเลย นางเอกที่ขาดพ่อแม่ เมื่อเจอพระเอกก็อบอุ่นใจ แม้เขาจะขยันบ่น เทศน์เธอสารพัด นางเอกเริ่มหลงรักเขาแล้วค่ะ แต่คิดว่าพระเอกเป็นเกย์และรักกับเพื่อน(สาว)ตัวเองอยู่

พระเอกเมื่อได้เข้ามาใกล้ชิดนางเอก เขาจึงเริ่มรู้ว่านางเอกเป็นเด็กดี เขาจึงเริ่มสงสารที่นางเอกต้องเจอป้าโกง ก็แอบๆเตือนให้นางเอกไม่ให้ไว้ใจป้ามากไป เข้าไปดูบริษัทของพ่อแม่บ้าง ตอนแรกนางเอกก็ได้คิดอะไรหรอกนะคะ เพราะเธอมองโลกในแง่ดีและไว้ใจป้ามาก จนวันหนึ่งเธอทะเลาะกับพระเอก พระเอกงอนบินกลับกรุงเทพฯเลย แงๆๆ และทำให้เธอได้รู้ความจริงว่าป้าโกง พระเอกจึงต้องกลับมาหาเพราะเป็นห่วงนางเอก ทั้งคู่จึงได้ปรับความเข้าใจกัน และบอกความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง

เรื่องคดีก็ค่อยๆคลี่คลายค่ะ เพราะป้านางเอกถูกจับได้มาโกง ส่วน “ชโยดม”ลอยตัวเพราะเขาป้องกันตัวเองได้เป็นอย่างดี ปล่อยให้ป้านางเอกรับกรรมไปคนเดียว มีล้นระทึกนิดๆ เพราะ “ชโยดม”ร้ายพอตัว พระเอกถูกลอบทำร้าย แต่ก็ปิดคดีได้ค่ะ พอเรื่องเงินๆทองๆจบไป หลังจากนั้นก็เป็นเรื่องราวความรักของพระนาง มีตัวละครจาก L Club ภาคเก่าๆโผล่มาให้หายคิดถึงด้วยค่ะ

“L Club S (คดีพิเศษ)… เคหาสน์ (ไม่) ขาดรัก” นิยายเรื่องนี้ ดิฉันเดาว่าผู้เขียนทนกระแสเรียกร้องภาคต่อไม่ไหวค่ะ จึงเขียนภาคพิเศษเพิ่ม พระเอกของเรื่อง “วิญยะ” หลานชายคนเล็กของตระกูลถูกคุณย่าจะให้แต่งงานกับผู้หญิงที่หามาให้ แต่พระเอกไม่ชอบให้ใครมาบังคับจึงเลือกที่จะออกจากบ้านเพื่อเริ่มต้นชีวิตตามทางเดินของตัวเอง และได้มีโอกาสไปเป็นทนายความฝึกหัดที่สำนักงานของพวกนพเดชา ด้วยท่านประธานเล็งเห็นแววว่าพระเอกเป็นคนดีมีความสามารถ แต่คดีแรกที่พระเอกได้เป็นคนไปช่วยสืบ กลับทำให้เขาเข้าใจเจตนาของ “อเนชา” ลูกชายคนโตของเจ้าของสำนักงานทนายความผิดไป จึงเลือกที่จะลาออกเพราะผิดหวังค่ะ “อเนชา”รู้ดีว่าพระเอกเป็นคนหนุ่มไฟแรง มีนิสัยตรง คิดอย่างไรก็แสดงออกอย่างนั้น จึงสั่งให้ “จิรพนธ์”น้องชายหาทางทำให้พระเอกเข้าใจความจริง

บอกก่อนค่ะว่าช่วงแรกที่อ่าน ดิฉันทั้งเข้าใจและหมั้นไส้การกระทำของพระเอก คือเขาเป็นคนที่ยึดหลักความถูกต้อง เป็นสิ่งที่น่าชื่นชม แต่หมั้นไส้ตรงที่เขาไม่ฟังก่อนที่ตัดสินเรื่องราว อาจจะเป็นเพราะชีวิตเขาเกิดมาก็เจอกับความกดดันค่ะ แม่ไม่ใช่ภรรยาคนแรกของพ่อ และย่าก็ไม่ได้อยากจะยอมรับแม่ของพระเอกเท่าไหร่ ย่าก็รักพระเอกนะคะ แต่แค่แสดงออกผิดวิธี พอเจอพระเอกที่มีความคิดเป็นของตัวผสมอีโก้นิดๆจึงแตกหักอย่างรุนแรง

นางเอก “ปีวรา” เธอเป็นคนดีมีน้ำใจ พระเอกกับนางเอกได้พบกันเพราะ นางเอกเปิดร้านขายขนมบนสถานีรถไฟฟ้าฯ เมื่อพระเอกออกจากบ้าน เขาจึงได้เริ่มเรียนรู้ชีวิตของมนุษย์เงินเดือนค่ะ จากที่เคยขับรถก็ต้องประหยัดมานั่งรถไฟฟ้าแทน ก็มองกันไปมองกันมา แล้วพอวันที่พระเอกด่วนลาออกจากสำนักงานทนายความด้วยความที่ไม่มีเงิน หิวตาลายจนเป็นลม นางเอกสงสารจึงเอาขนมมาให้กิน

เรื่องยังไม่จบแค่นั้นค่ะ เมื่อทั้งคู่ต้องมาพบกันอีกครัง ในเหตุการณ์ถูกรถชน ต้องเข้าโรงพยาบาลทั้งคู่ พระเอกจึงหลอกทุกคนว่าเขาความจำเสื่อม แต่พอรู้ว่านางเอกก็เข้าโรงพยาบาลเพราะช่วยเขา พระเอกจึงไปหา ปรากฎว่านางเอกก็ความจำเสื่อมเช่นกัน พระเอกเลยโมเมบอกพ่อและน้องสาวนางเอกว่าเขาเป็นแฟนเธอ และทำให้พระเอกได้รู้ครอบครัวนางเอกก็กำลังมีปัญหาเรื่องกิจการ ประเด็นเงินๆทองๆ แม่นางเอกก็มาวีนเหวี่ยงใส่พ่อนางเอกแทนที่จะห่วงลูก เพราะหลงเชื่อทนายอย่าง “ชโยดม” อาการความจำเสื่อมที่พระเอกกุหลอกทุกคนเหมือนจะทำให้ย่าพระเอกเปลี่ยนไปในทางที่ดี แต่แค่แว็บเดียวนะคะ พระเอกทนไม่ไหวจึงสารภาพว่าเขาไมได้ความจำเสื่อม ย่าพระเอกเลยโกรธมาก พระเอกออกจากบ้านอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาเลือกที่จะไปของานที่ร้านพ่อนางเอกทำ เพราะไม่เหลือใครแล้ว จึงทำให้เขาได้รู้ว่านางเอกก็แกล้งความจำเสื่อมจ้า…แต่ทำไงได้เนอะ เพราะเขาหลงรักนางเอกไปแล้วตั้งแต่วันที่เขาได้ขนมจากเธอนั่นแหละค่ะ ส่วนนางเอกเธอก็สารภาพเลยว่าเห็นว่าพระเอกเป็นคนดี จึงรับสมอ้างเป็นแฟนซะเลย ก็ผู้ชายดีๆไม่ได้มีผ่านเข้ามาเยอะนิเนอะ อิอิกำ พอกันเลยค่ะคู่นี้

ฝ่าย “จิรพนธ์” เมื่อมาบอกพระเอกให้รู้ความจริงตามที่ “อเนชา”สั่ง ทำให้เขาได้เห็น “ชโยดม” โดยบังเอิญ คือถ้าใครยังไม่เคยอ่าน L Club3 อาจจะงงหน่อยๆค่ะ แต่สรุปให้สั้นๆเนอะ ว่า “ชโยดม” ไม่ใช่คนดี เป็นทนายความสายมืด ทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ตัวเอง ซึ่ง “อเนชา” เกือบเอาชีวิตไม่รอดมาแล้วในเล่ม L Club3 และเมื่อ “อเนชา”รู้เรื่อง เขาจึงเตือนให้พระเอกระวังตัว ซึ่งก็เป็นไปตามนั้นค่ะ เพราะประเด็นเรื่องกิจการของบ้านนางเอก มีความซับซ้อนอยู่จริงๆ นางเอกสงสัยแต่แรกจึงตามไปสืบ พระเอกก็ตามไปช่วยเพราะเพิ่งรู้เรื่องความเลวของ “ชโยดม” จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ดีที่ฝั่ง “อเนชา”ส่งคนไปช่วยทัน ตอนหลังปมเรื่องบ้านนางเอกจึงปิดได้ ดิฉันว่าลงตัวนะคะ ติดอย่างเดียว คนชั่วอย่าง “ชโยดม” ไม่ได้รับกรรมเสียที แถมเขายังไปหลอกย่าพระเอกอีกด้วย คิดแล้วเวียนหัวจริงๆ แต่ก็ทำให้ครอบครัวพระเอกกลับมาเข้าใจกันมากขึ้น ท้ายเรื่องก็มีบทให้พระเอกหึงนิด น่ารักน่าหยิก ไม่มากไม่น้อยไป น่ารักดีค่ะ 

“L Club S (คดีพิเศษ)… เคหาสน์ (ไม่) ขาดรัก” นิยายเรื่องนี้ ดิฉันเดาว่าผู้เขียนทนกระแสเรียกร้องภาคต่อไม่ไหวค่ะ จึงเขียนภาคพิเศษเพิ่ม พระเอกของเรื่อง “วิญยะ” หลานชายคนเล็กของตระกูลถูกคุณย่าจะให้แต่งงานกับผู้หญิงที่หามาให้ แต่พระเอกไม่ชอบให้ใครมาบังคับจึงเลือกที่จะออกจากบ้านเพื่อเริ่มต้นชีวิตตามทางเดินของตัวเอง และได้มีโอกาสไปเป็นทนายความฝึกหัดที่สำนักงานของพวกนพเดชา ด้วยท่านประธานเล็งเห็นแววว่าพระเอกเป็นคนดีมีความสามารถ แต่คดีแรกที่พระเอกได้เป็นคนไปช่วยสืบ กลับทำให้เขาเข้าใจเจตนาของ “อเนชา” ลูกชายคนโตของเจ้าของสำนักงานทนายความผิดไป จึงเลือกที่จะลาออกเพราะผิดหวังค่ะ “อเนชา”รู้ดีว่าพระเอกเป็นคนหนุ่มไฟแรง มีนิสัยตรง คิดอย่างไรก็แสดงออกอย่างนั้น จึงสั่งให้ “จิรพนธ์”น้องชายหาทางทำให้พระเอกเข้าใจความจริง

บอกก่อนค่ะว่าช่วงแรกที่อ่าน ดิฉันทั้งเข้าใจและหมั้นไส้การกระทำของพระเอก คือเขาเป็นคนที่ยึดหลักความถูกต้อง เป็นสิ่งที่น่าชื่นชม แต่หมั้นไส้ตรงที่เขาไม่ฟังก่อนที่ตัดสินเรื่องราว อาจจะเป็นเพราะชีวิตเขาเกิดมาก็เจอกับความกดดันค่ะ แม่ไม่ใช่ภรรยาคนแรกของพ่อ และย่าก็ไม่ได้อยากจะยอมรับแม่ของพระเอกเท่าไหร่ ย่าก็รักพระเอกนะคะ แต่แค่แสดงออกผิดวิธี พอเจอพระเอกที่มีความคิดเป็นของตัวผสมอีโก้นิดๆจึงแตกหักอย่างรุนแรง

นางเอก “ปีวรา” เธอเป็นคนดีมีน้ำใจ พระเอกกับนางเอกได้พบกันเพราะ นางเอกเปิดร้านขายขนมบนสถานีรถไฟฟ้าฯ เมื่อพระเอกออกจากบ้าน เขาจึงได้เริ่มเรียนรู้ชีวิตของมนุษย์เงินเดือนค่ะ จากที่เคยขับรถก็ต้องประหยัดมานั่งรถไฟฟ้าแทน ก็มองกันไปมองกันมา แล้วพอวันที่พระเอกด่วนลาออกจากสำนักงานทนายความด้วยความที่ไม่มีเงิน หิวตาลายจนเป็นลม นางเอกสงสารจึงเอาขนมมาให้กิน

เรื่องยังไม่จบแค่นั้นค่ะ เมื่อทั้งคู่ต้องมาพบกันอีกครัง ในเหตุการณ์ถูกรถชน ต้องเข้าโรงพยาบาลทั้งคู่ พระเอกจึงหลอกทุกคนว่าเขาความจำเสื่อม แต่พอรู้ว่านางเอกก็เข้าโรงพยาบาลเพราะช่วยเขา พระเอกจึงไปหา ปรากฎว่านางเอกก็ความจำเสื่อมเช่นกัน พระเอกเลยโมเมบอกพ่อและน้องสาวนางเอกว่าเขาเป็นแฟนเธอ และทำให้พระเอกได้รู้ครอบครัวนางเอกก็กำลังมีปัญหาเรื่องกิจการ ประเด็นเงินๆทองๆ แม่นางเอกก็มาวีนเหวี่ยงใส่พ่อนางเอกแทนที่จะห่วงลูก เพราะหลงเชื่อทนายอย่าง “ชโยดม” อาการความจำเสื่อมที่พระเอกกุหลอกทุกคนเหมือนจะทำให้ย่าพระเอกเปลี่ยนไปในทางที่ดี แต่แค่แว็บเดียวนะคะ พระเอกทนไม่ไหวจึงสารภาพว่าเขาไมได้ความจำเสื่อม ย่าพระเอกเลยโกรธมาก พระเอกออกจากบ้านอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาเลือกที่จะไปของานที่ร้านพ่อนางเอกทำ เพราะไม่เหลือใครแล้ว จึงทำให้เขาได้รู้ว่านางเอกก็แกล้งความจำเสื่อมจ้า…แต่ทำไงได้เนอะ เพราะเขาหลงรักนางเอกไปแล้วตั้งแต่วันที่เขาได้ขนมจากเธอนั่นแหละค่ะ ส่วนนางเอกเธอก็สารภาพเลยว่าเห็นว่าพระเอกเป็นคนดี จึงรับสมอ้างเป็นแฟนซะเลย ก็ผู้ชายดีๆไม่ได้มีผ่านเข้ามาเยอะนิเนอะ อิอิกำ พอกันเลยค่ะคู่นี้

ฝ่าย “จิรพนธ์” เมื่อมาบอกพระเอกให้รู้ความจริงตามที่ “อเนชา”สั่ง ทำให้เขาได้เห็น “ชโยดม” โดยบังเอิญ คือถ้าใครยังไม่เคยอ่าน L Club3 อาจจะงงหน่อยๆค่ะ แต่สรุปให้สั้นๆเนอะ ว่า “ชโยดม” ไม่ใช่คนดี เป็นทนายความสายมืด ทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ตัวเอง ซึ่ง “อเนชา” เกือบเอาชีวิตไม่รอดมาแล้วในเล่ม L Club3 และเมื่อ “อเนชา”รู้เรื่อง เขาจึงเตือนให้พระเอกระวังตัว ซึ่งก็เป็นไปตามนั้นค่ะ เพราะประเด็นเรื่องกิจการของบ้านนางเอก มีความซับซ้อนอยู่จริงๆ นางเอกสงสัยแต่แรกจึงตามไปสืบ พระเอกก็ตามไปช่วยเพราะเพิ่งรู้เรื่องความเลวของ “ชโยดม” จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ดีที่ฝั่ง “อเนชา”ส่งคนไปช่วยทัน ตอนหลังปมเรื่องบ้านนางเอกจึงปิดได้ ดิฉันว่าลงตัวนะคะ ติดอย่างเดียว คนชั่วอย่าง “ชโยดม” ไม่ได้รับกรรมเสียที แถมเขายังไปหลอกย่าพระเอกอีกด้วย คิดแล้วเวียนหัวจริงๆ แต่ก็ทำให้ครอบครัวพระเอกกลับมาเข้าใจกันมากขึ้น ท้ายเรื่องก็มีบทให้พระเอกหึงนิด น่ารักน่าหยิก ไม่มากไม่น้อยไป น่ารักดีค่ะ 

“L Club Two… บ้านไร่ไร้ตะวัน” มากันแล้วววค่า สำหรับเล่มสองของชุด L Club ความจริงดิฉันได้อ่านนิยายชุดนี้มานานแล้ว เพราะซื้อตั้งแต่ทางสำนักพิมพ์ พิมพ์ออกมา บอกเลยค่ะว่าชอบมาก และหลังจากอ่านเล่มแรกก็รอคอยเล่มสองอย่างใจจดใจจ่อ เรื่องนี้เป็นตาของ “จารวี”แฝดหญิงของจิรพนธ์จากภาคแรก นางเอกเรื่องนี้เป็นทนายสาว เธอต้องเดินทางไปที่ “บ้านไร่ดมิสา” ตามคำขอร้องของเพื่อนรุ่นน้อง เพราะมีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย ทั้งคดีฆาตรกรรม และเพื่อนรุ่นน้องนางเอกที่ได้รับบาดเจ็บจนต้องเข้าโรงพยาบาล

ฝ่ายพระเอก “อินทยุทธ” เขาเป็นพี่ชายต่างแม่ของเพื่อนรุ่นน้องนางเอก แต่ไม่ค่อยได้รับการยอมรับจากคนในไร่และครอบครัวเท่าไหร่เพราะพระเอกเป็นแค่ลูกเมียน้อย เมียหลวงของพ่อพระเอกมีลูกสามคน คนโตเป็นผู้ชาย คนนี้แหละค่ะที่ตาย เหลือเมียและลูกไว้ ตอนมีชีวิตอยู่ก็ทะเลาะกับพระเอกบ่อยๆ คนต่อมาก็เป็นผู้ชายซึ่งดูไม่ค่อยสนใจโลก คนนี้ดูจะไม่มีปัญหากับพระเอก นับพระเอกเป็นพี่ ส่วนน้องนุชคนสุดท้อง ก็คือเพื่อนรุ่นน้องนางเอกซึ่งเกลียดพระเอกเช่นกัน เพราะคิดว่าพระเอกหวังสมบัติของพ่อ น่าสงสารพระเอกจุงเบยยย
ความจริงเขาเคยเป็นทนายในสำนักงานที่พ่อนางเอกเป็นเจ้าของ เป็นธรรมดาของชายหนุ่ม เมื่อเห็นหญิงสาวสวยก็ต้องมีแอบพึงใจเนอะ แต่พระเอกเจียมตัว เพราะเขาเป็นลูกเมียน้อย นางเอกสูงส่งเป็นถึงลูกเจ้าของสำนักงานทนายชื่อดัง แล้วพระเอกก็เลิกเป็นทนาย เดินทางมาทำงานที่ “ไร่ดมิสา” ซึ่งพ่อพระเอกเป็นเจ้าของ นางเอกกับพระเอกจึงไมได้เจอกันอีก ตอนแรกที่ได้เจอนางเอกอีกครั้ง พระเอกก็ตกใจค่ะ เพราะไม่คิดว่าน้องสาวต่างแม่จะจ้างนางเอกมาเป็นทนายจัดการเรื่องมรดก นางเอกยังจำเขาไม่ได้ แต่พระเอกจำนางเอกได้แน่นอน

นางเอกเรื่องนี้เธอมีคาเรกเตอร์พูดน้อย ชอบคิดในใจค่ะ ฮ่าๆๆๆ ซึ่งดิฉันก็ว่าเหมาะกับอาชีพทนายดี เป็นคนจริงจัง ยกตัวอย่างตอนที่มีผู้ชายมาหลี นางเอกรำคาญมากๆ ยกปืนขึ้นจะยิงเลย แหะๆ โหดเฟ่อ ส่วนพระเอก อดีตทนาย ชอบใช้คำพูดต้อน นางเอก มาแนวๆหมาหยอกไก่ อิอิ จนนางเอกที่นิ่งๆเผลอมาดหลุด เพราะความจริงแล้วเธอเริ่มหวั่นไหวกับพระเอกแล้วค่ะ แต่เธอยังไม่เทใจให้เขาหมดเพราะเขาก็อาจมีสิทธิ์ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีได้ เพราะเพื่อนรุ่นน้องของนางเอกไม่ชอบและไม่ไว้ใจพระเอก นางเอกจึงเริ่มสืบหาเบาะแส

พระเอกเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ สืบหาเบาะแสด้วยตัวเอง เพราะอย่างที่บอกค่ะว่าคนในครอบครัวไม่มีใครชอบเขาเลย นางเอกจึงเป็นเหมือนคนที่พระเอกเหลืออยู่ แม้ใจนางเอกจะเริ่มเอนเอียงไปฝั่งพระเอก แต่เธอมาช่วยรุ่นน้องที่เกลียดพระเอก เธอจึงต้องแก้ปัญหา โดยการหาทนายคนใหม่มาจัดการมรดกเพื่อป้องกันคำครหา

ปมของเรื่องค่อยๆปรากฎ เริ่มจากข้อสันนิษฐานเล็กๆที่พระเอกสงสัยในตอนแรก จนได้รู้ความจริงค่ะ คนร้ายไม่ใช่คนไกล และเหตุผลที่ทำให้เกิดคดีก็น่าสะเทือนใจไม่น้อย แต่ก็ทำให้รุ่นน้องนางเอกเห็นว่าพระเอกเป็นคนดี เธอจึงขอโทษพระเอกที่เคยเข้าใจเขาผิด เรื่องความรักของพระเอกนางเอกเรื่องนี้ไม่ได้หวานแหวว แต่จัดได้ว่าน่ารักค่ะ พอตอนหลังเข้าใจกันแล้วก็มีบทหวานให้อ่านนิดๆ

“L Club Two… บ้านไร่ไร้ตะวัน” มากันแล้วววค่า สำหรับเล่มสองของชุด L Club ความจริงดิฉันได้อ่านนิยายชุดนี้มานานแล้ว เพราะซื้อตั้งแต่ทางสำนักพิมพ์ พิมพ์ออกมา บอกเลยค่ะว่าชอบมาก และหลังจากอ่านเล่มแรกก็รอคอยเล่มสองอย่างใจจดใจจ่อ เรื่องนี้เป็นตาของ “จารวี”แฝดหญิงของจิรพนธ์จากภาคแรก นางเอกเรื่องนี้เป็นทนายสาว เธอต้องเดินทางไปที่ “บ้านไร่ดมิสา” ตามคำขอร้องของเพื่อนรุ่นน้อง เพราะมีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย ทั้งคดีฆาตรกรรม และเพื่อนรุ่นน้องนางเอกที่ได้รับบาดเจ็บจนต้องเข้าโรงพยาบาล

ฝ่ายพระเอก “อินทยุทธ” เขาเป็นพี่ชายต่างแม่ของเพื่อนรุ่นน้องนางเอก แต่ไม่ค่อยได้รับการยอมรับจากคนในไร่และครอบครัวเท่าไหร่เพราะพระเอกเป็นแค่ลูกเมียน้อย เมียหลวงของพ่อพระเอกมีลูกสามคน คนโตเป็นผู้ชาย คนนี้แหละค่ะที่ตาย เหลือเมียและลูกไว้ ตอนมีชีวิตอยู่ก็ทะเลาะกับพระเอกบ่อยๆ คนต่อมาก็เป็นผู้ชายซึ่งดูไม่ค่อยสนใจโลก คนนี้ดูจะไม่มีปัญหากับพระเอก นับพระเอกเป็นพี่ ส่วนน้องนุชคนสุดท้อง ก็คือเพื่อนรุ่นน้องนางเอกซึ่งเกลียดพระเอกเช่นกัน เพราะคิดว่าพระเอกหวังสมบัติของพ่อ น่าสงสารพระเอกจุงเบยยย
ความจริงเขาเคยเป็นทนายในสำนักงานที่พ่อนางเอกเป็นเจ้าของ เป็นธรรมดาของชายหนุ่ม เมื่อเห็นหญิงสาวสวยก็ต้องมีแอบพึงใจเนอะ แต่พระเอกเจียมตัว เพราะเขาเป็นลูกเมียน้อย นางเอกสูงส่งเป็นถึงลูกเจ้าของสำนักงานทนายชื่อดัง แล้วพระเอกก็เลิกเป็นทนาย เดินทางมาทำงานที่ “ไร่ดมิสา” ซึ่งพ่อพระเอกเป็นเจ้าของ นางเอกกับพระเอกจึงไมได้เจอกันอีก ตอนแรกที่ได้เจอนางเอกอีกครั้ง พระเอกก็ตกใจค่ะ เพราะไม่คิดว่าน้องสาวต่างแม่จะจ้างนางเอกมาเป็นทนายจัดการเรื่องมรดก นางเอกยังจำเขาไม่ได้ แต่พระเอกจำนางเอกได้แน่นอน

นางเอกเรื่องนี้เธอมีคาเรกเตอร์พูดน้อย ชอบคิดในใจค่ะ ฮ่าๆๆๆ ซึ่งดิฉันก็ว่าเหมาะกับอาชีพทนายดี เป็นคนจริงจัง ยกตัวอย่างตอนที่มีผู้ชายมาหลี นางเอกรำคาญมากๆ ยกปืนขึ้นจะยิงเลย แหะๆ โหดเฟ่อ ส่วนพระเอก อดีตทนาย ชอบใช้คำพูดต้อน นางเอก มาแนวๆหมาหยอกไก่ อิอิ จนนางเอกที่นิ่งๆเผลอมาดหลุด เพราะความจริงแล้วเธอเริ่มหวั่นไหวกับพระเอกแล้วค่ะ แต่เธอยังไม่เทใจให้เขาหมดเพราะเขาก็อาจมีสิทธิ์ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีได้ เพราะเพื่อนรุ่นน้องของนางเอกไม่ชอบและไม่ไว้ใจพระเอก นางเอกจึงเริ่มสืบหาเบาะแส

พระเอกเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ สืบหาเบาะแสด้วยตัวเอง เพราะอย่างที่บอกค่ะว่าคนในครอบครัวไม่มีใครชอบเขาเลย นางเอกจึงเป็นเหมือนคนที่พระเอกเหลืออยู่ แม้ใจนางเอกจะเริ่มเอนเอียงไปฝั่งพระเอก แต่เธอมาช่วยรุ่นน้องที่เกลียดพระเอก เธอจึงต้องแก้ปัญหา โดยการหาทนายคนใหม่มาจัดการมรดกเพื่อป้องกันคำครหา

ปมของเรื่องค่อยๆปรากฎ เริ่มจากข้อสันนิษฐานเล็กๆที่พระเอกสงสัยในตอนแรก จนได้รู้ความจริงค่ะ คนร้ายไม่ใช่คนไกล และเหตุผลที่ทำให้เกิดคดีก็น่าสะเทือนใจไม่น้อย แต่ก็ทำให้รุ่นน้องนางเอกเห็นว่าพระเอกเป็นคนดี เธอจึงขอโทษพระเอกที่เคยเข้าใจเขาผิด เรื่องความรักของพระเอกนางเอกเรื่องนี้ไม่ได้หวานแหวว แต่จัดได้ว่าน่ารักค่ะ พอตอนหลังเข้าใจกันแล้วก็มีบทหวานให้อ่านนิดๆ